BH ร่วง 10% โบรกหั่นคำแนะนำ “ถือ” หลังงบ Q3 แตะ 1.9 พันล้าน ต่ำกว่าคาด!
BH ร่วง 10% หลังรายงานกำไรไตรมาส 3/67 แตะ 1.9 พันล้านบาท ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด โบรกปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 พ.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ณ เวลา 10:10 น. อยู่ที่ระดับ 236.00 บาท ลบ 26.00 บาท หรือ 9.92% สูงสุดที่ระดับ 245.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 226.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,531.43 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น BH เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังแจ้งงบการเงินไตรมาส 3/67 ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าผลประกอบการไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,955.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.04% ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,954.43 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 6,384 ล้านบาท ลดลง 5.00% โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น
โดยผลการดำเนินไตรมาส 3/67 ที่ประกาศออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินไว้ก่อนหน้าว่า BH จะสามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 2,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้าเติบโตเป็นไตรมาสดีสุดของปี เนื่องจากคาดรายได้เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เติบโตจากการใช้บริการและผลด้านราคา
ขณะที่คาดการณ์มี Economies of scale ของการใช้บริการ และ Intensity ค่ารักษาโรคเพิ่มขึ้น รวมทั้งคุมต้นทุนได้ดี ทำให้คาดมี Gross margin และ EBITDA margin ดีขึ้น 52.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 40.50% จากไตรมาสก่อนหน้า
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BH รายงานกำไรสุทธิที่ 1,955 ล้านบาท ทรงตัว 0.03% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาล หากหักรายการพิเศษจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนกำไรหลักจะอยู่ที่ 1,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรหลักต่ำกว่าที่คาด 7% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 9% คาดเห็นการปรับประมาณการลงของฝ่ายวิจัยและตลาดราว 3-7% ทั้งในปีนี้และปีหน้า
ทั้งนี้ รายได้จากการรักษาพยาบาลอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ผู้บริหารเคยมองไว้ที่จะสามารถเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนได้ โดยรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนแต่ เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้าจาก high season รายได้ผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51.6% เพิ่มขึ้นจาก 49.8% ในไตรมาส 3/66 แต่ลดลงจาก 52.1% ในไตรมาส 2/67 ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/sales อยู่ที่ 15.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”