“ชาติศิริ” มองทรัมป์ชนะเลือกตั้ง หนุนเศรษฐกิจ เล็งต่างชาติย้ายฐานผลิตเข้าไทย
“ชาติศิริ โสภณพนิช” คาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง มองไทยจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าขายระหว่างประเทศของไทย เล็งต่างชาติย้ายฐานผลิตเข้าไทย หนุนเศรษฐกิจ-การค้าโลกเติบโต
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า สำหรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่คาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง มองว่า หากดูแนวความคิดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเห็นว่ามีวิธีคิดหลายอย่างที่นอกกรอบ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีในเรื่องของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยในช่วง 4 ปีข้างหน้ามีหลายอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์และมีกรอบ FrameWork ที่อาจทำให้ประเทศมหาอำนาจเกิดความร่วมมือกัน
ทั้งนี้ ในระยะสั้นอาจจะต้องรอดูนโยบายที่จะออกมาชัดเจน ซึ่งจะเป็นการวางตำแหน่งของนโยบายที่จะดำเนินการในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี ในระยะปานกลาง (Medium Term) ระยะ 2 ปี จะทำให้การค้าโลก (Global Trade) เติบโตเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ใช่ในทันที รวมถึงอาจจะเห็นกระแสเงินลงทุนไหลจากต่างประเทศจากการย้ายฐานการผลิตเข้ามาลงทุนในไทย (Flow Relocation) ซึ่งจะเห็นสัญญาณจากจีนที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นระยะๆ ในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย มองว่า ไทยเป็นประเทศที่มีพื้นฐานที่ดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีในเอเชียและตะวันตก ซึ่งมีความสมดุลและเหมาะสม และหากเศรษฐกิจ และการค้าโลกมีอัตราการเติบโต น่าจะสนับสนุนการค้าขายและเกิดการลงทุนของไทยขยายตัวเติบโตต่อไปได้
“โดย Medium Term ไม่ได้ทันที จะช่วยหนุนโกลบอลเทรดเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ในช่วง 4 ปีข้างหน้ามีหลายอย่างที่เป็น FrameWork ที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโต และ Flow Relocation จากต่างประเทศส่วนหนึ่ง”
นายชาติศิริ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น ธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย (TBA) ในการสนับสนุนแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต แม้ว่าโดยเกณฑ์ของมาตรการอาจจะกระทบต่อดอกเบี้ยของธนาคาร แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือกันแก้ไข
สำหรับลูกหนี้ของธนาคารกรุงเทพที่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติโครงการดังกล่าวก็เป็นไปตามสัดส่วนที่สอดคล้องกับระบบ อย่างไรก็ดี ยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากสมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่มเติม
“มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ดี สร้างวินัยทางการเงิน ซึ่งระยะปานกลางน่าจะช่วยลดหนี้เสีย และปัญหาหนี้ครัวเรือนน่าจะดีขึ้น ซึ่งโดยปกติธนาคารกรุงเทพก็มีการดูแลลูกหนี้ที่มีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่หากมีมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนเข้ามา ก็จะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต”