แนวโน้ม SET ไปต่อ ตอบรับ “เฟด” หั่นดอกเบี้ย 0.25% – จับตางบ “บจ.” ไตรมาส 3
แนวโน้ม SET บวกต่อตามภูมิภาคเอเชีย ตอบรับเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% และยังส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งต่อ จับตางบบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/67 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ให้แนวรับไว้ที่ 1,460 จุด และแนวต้านที่ 1,480 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวได้เล็กน้อย สอดคล้องตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ตามที่ตลาดคาด ขณะที่แม้ประธานเฟด จะไม่ได้ส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป แต่นักลงทุนก็ได้ให้น้ำหนักมากถึง 75% ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% หลังเฟด มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้ออาจปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่มาก และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นแต่ก็อยู่ในโซนที่ต่ำ ส่งผลให้อาจมีแรงเกร็งกำไรเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง
ทั้งนี้แนะติดตาม โค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/67 บริษัทจดทะเบียนไทย, ตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงของไทยในช่วงที่เหลือของปี ให้แนวรับไว้ที่ 1,460 จุด และแนวต้านที่ 1,480 จุด
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณ์ SET Index จะแกว่งตัว Sideways Up ในกรอบ 1,465-1,480 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้น ล่าสุดผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ตามคาดและภาพรวมถ้อยแถลงไม่มีปัจจัย Surprise โดยเฟดยังคงมองบวกต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอ
ขณะที่เงินเฟ้อยังทยอยขยับลง ส่งผลให้ Dollar Index และ Bond Yield เริ่มชะลอตัวลงหลังจากพุ่งขึ้นรับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือสภาประชาชนแห่งชาติจีนว่าจะมีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ตลาดคาดหวังหรือไม่อย่างไร ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงให้น้ำหนักกับการ ประกาศกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/67 ซึ่งภาพรวมเท่าที่ประกาศออกมาถือว่าค่อนไปในทางต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และเริ่มเห็นการปรับประมาณการ EPS ปี 67-68 ลงบ้างราว 2-3% ซึ่งเป็นอีกปัจจัย กดดันดัชนีจากด้าน Valuation ที่ตึงตัวขึ้นเล็กน้อย ระยะสั้นเรามองดัชนีมีโอกาสชะลอตัวและ คาดยังผ่านแนวต้านหลัก 1,500 จุดไม่ง่าย
อย่างไรก็ตามยังมองโอกาสฟื้นตัวของดัชนีในระยะกลาง-ยาวเข้าหา SET Target ปี 68 ที่ 1,600 จุด ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากภาพรวม เศรษฐกิจที่ยังอยู่ในทิศทางทยอยฟื้นตัว และได้แรงหนุนจากทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก รัฐบาล รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มขยับลงบ้าง ขณะที่ Downside คาดยังคงถูกจำกัดจากเม็ดเงิน ลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่ทยอยซื้อหุ้นในช่วงดัชนีย่อตัว