THAI กวาดกำไร Q3 โต 7 เท่าตัว ทะลุ 1.2 หมื่นล้านบาท รับยอดผู้โดยสารพุ่ง-ปรับโครงสร้างหนี้
“การบินไทย” โชว์กำไรไตรมาส 3/67 แตะ 1.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 707% ส่วน 9 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิ 1.5 หมื่นล้านบาท ผู้โดยสารแน่นขึ้น-รับผลปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมอัพเดตความคืบหน้ากระบวนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย. 67) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 3/67 และงวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 707.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,546 ล้านบาท โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย รับรู้ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 4,829 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 10,119 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 6,655 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน 1,705 ล้านบาท
ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 45,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,820 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 37,008 ล้านบาท หรือ 23.8% โดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.94 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวลดลงจาก 77.3% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 76.1%
สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15,221 ล้านบาท ลดลง 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 16,342 ล้านบาท โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 135,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 115,897 ล้านบาท คิดเป็น 17.2% รับรู้ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 14,233 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 5,273 ล้านบาท
โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 25,056 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินแบบแอร์บัส A380-800
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วรวมทั้งสิ้น 3,531 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ จะดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822,473,626 หุ้น (รวมทั้งหุ้นที่เหลือจาก Voluntary Conversion (หากมี)) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) (ตามลำดับ)
โดยคาดว่าจะดำเนินการเสนอขายให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม ของปี 2567 ภายหลังจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า จะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 โดยบริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าที่สำคัญให้ทราบต่อไป