INTUCH อวดกำไร 9 เดือนแรกทะลุหมื่นล้าน โต 15% รับรู้ส่วนแบ่ง “เอไอเอส-3BB” หนุน

INTUCH อวดกำไร 9 เดือนแรก เติบโต 15% แตะ 1 หมื่นล้านบาท หลังรับรู้รายได้ขาย-การให้บริการ ARPU กลุ่มเอไอเอส พ่วงรายได้บริการธุรกิจอินเทอร์เน็ต หนุน


บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,458.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,263.30 ล้านบาท เป็นผลมาจากส่วนแบ่งผลกําไรจากเงินลงทุนในกลุ่มเอไอเอส ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้หลักและกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB และการเติบโตของรายได้หลักสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนและค่าใชจ่าย รวมถึงต้นทุนทางการเงินจากการก่อหนี้ที่ใช้สำหรับการซื้อกิจการ TTTBB และต้นทุนทางการเงินของหนี้สินตาม สัญญาเช่าของ 3BBIF

ขณะที่บริษัทฯ ยังมีรายได้จากขายและการให้บริการในไตรมาส 3/67 และงวด 9 เดือน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโต ดังนี้

รายได้จากการให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเพิ่มจากปีก่อนจากการรับรู้รายได้ของ TTBB และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 จากการขยายฐานผู้ใช้บริการและการเพิ่มขึ้นของ ARPU ซึ่งเติบโตจากกลยุทธ์การขายพ่วงบริการเสริมแก่กลุ่มลูกค้าเต็ม รวมถึงการดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยแพ็กเกจที่มีมูลค่าสูง

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการเติบโตของ ARPU และจำนวนเลขหมายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งเน้นบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการใช้งานข้อมูลที่สูงขึ้น และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว อีกทั้งมีการเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 ผ่านการขยายฐานผู้ใช้บริการและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

นอกจากนี้ มีรายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและบริการอื่นๆ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB ที่ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร และรับรู้รายได้เชื่อมโยงโครงข่ายระหว่าง NT และเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาจากรายได้การขายบริการคลาวด์สำหรับโครงการขนาดใหญ่

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,166.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8,835.49 ล้านบาท

Back to top button