TOP โกยรายได้ 9 เดือนแตะ 3.4 แสนล้าน รับธุรกิจโรงกลั่น โบรกชี้ Q4 กำไรแตะ 2.3 พันล.
TOP กวาดรายได้ 9 เดือนแรกแตะ 3.43 แสนล้านบาท รับอานิสงส์ธุรกิจโรงกลั่นเติบโตสดใส ฟากโบรกมองกำไรไตรมาส 4/67 แตะ 2.3 พันล้านบาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 พลิกขาดสุทธิอยู่ที่ 4,217.86 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,827.61 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มไทยออยล์มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน อยู่ที่ 5,380 ล้านบาท หรือ 5.4 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และมีกําไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันลดลง 7.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจากไตรมาส 2/67 เมื่อรวมการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสําเร็จรูป อยู่ที่ 2,097 ล้านบาทในไตรมาส 3/67 เทียบกับการกลับรายการมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำามันสําเร็จรูปอยู่ที่ 735 ล้านบาท ในไตรมาส 2/67 และผลกําไรจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ รวมเฉพาะรายการที่เกิดจากการป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อยู่ที่ 95 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มไทยออยล์มีผลขาดทุนด้าน EBITDA อยู่ที่ 4,268 ล้านบาท เทียบกับ EBITDA ในไตรมาสก่อน อยู่ที่ 8,873 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/67 กลุ่มไทยออยล์มีกําไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 62 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 186 ล้านบาท ในไตรมาส 2/67 และมีผลกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ อยู่ที่ 1,645 ล้านบาท โดยเป็นกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิของสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ จำนวน 866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,879 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาเมื่อหักค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และการกลับรายการภาษีเงินได้แล้ว ส่งผลให้ในผลดำเนินงานไตรมาส 3/67 กลุ่มไทยออยล์ขาดทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 110,018 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 67 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 343,895 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 7,191.87 ล้านบาท ลดลง 56.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 16,498.83 ล้านบาท สืบเนื่องมาจากบริษัทรับรู้ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน อยู่ที่ 3,903 ล้านบาท เทียบกับกําไรจากสต๊อกนํ้ามันช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,370 ล้านบาท และมีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสําเร็จรูป อยู่ที่ 2,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 219 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อรวมกําไรจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ อยู่ที่ 401 ล้านบาท รวมเฉพาะรายการที่เกิดจากการป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี อยู่ที่ EBITDA 15,554 ล้านบาท ลดลง 16,218 ล้านบาท
อีกทั้ง กลุ่มไทยออยล์มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน อยู่ที่ 271 ล้านบาท กําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิอยู่ที่ 540 ล้านบาท และมีกําไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้อยู่ที่ 1,163 ล้านบาท เมื่อหักค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบิวิเคราะห์ถึง TOP ถึงแนวโน้มไตรมาส 4/67 กำไรปกติน่าจะอยู่ในระดับ 2.3 พันล้านบาท โดยปกติเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว จะส่งมลดีต่อกลุ่ม Mide dettllae ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงประมาณกำไรปกตอปี 67 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท แต่ปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นการ Adjust รายการพิเศษ และ Net stock loss ที่เกิดขึ้น