MINT:กระจายความเสี่ยงธุรกิจได้ดีชี้ธุรกิจโตเร็วจากการซื้อกิจการ-ซื้อ

MINT คงคำแนะนำซื้อ จุดเด่นเป็นหลักทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงเทียบกับกลุ่ม ปี 59 คาดไว้ที่ 18.3% ในวันศุกร์บริษัทจะมีประชุมกับนักวิเคราะห์ คาดว่าจะได้ข้อมูลใหม่ๆมาปรับปรุง ชอบ MINT ในประเด็นการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง กลยุทธ์การขยายตัว และการเติบโตจากภายนอกได้รวดเร็วขึ้น ด้วยการซื้อกิจการ


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(4 ก.พ.) ว่า บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  หรือ MINT บริษัทได้เข้าซื้อโรงแรม Tivoli ที่เหลืออีก 7 แห่ง ในประเทศโปรตุเกสสำเร็จแล้ว ทำให้มีโรงแรมในพอร์ตฟอลิโอเพิ่มขึ้น นั่นคือ เพิ่มโรงแรมของตนเอง 930 ห้อง และที่รับบริหาร 88 ห้อง รวมแล้ว MINT มีโรงแรม Tivoli 14 แห่ง ตั้งอยู่ที่โปรตุเกส 12 แห่ง และบราซิล 2 แห่ง จำนวนห้องทั้งหมดเป็น 2,982 ห้อง สำหรับเงินลงทุนทั้งหมดเป็น 294.2 ล้านยูโร คิดเป็นอัตราส่วน EV/EBITDA ที่ 9.6 เท่า ด้านรายได้ต่อปีเป็น 121 ล้านยูโร และEBITDA ที่ 31 ล้านยูโร สำหรับอัตราการเข้าเช่า (AOR) และอัตราเฉลี่ยค่าห้องพักต่อห้อง (ADR) สำหรับบราซิลเป็น 58% และ 200 ยูโร ตามลำดับ และโปรตุเกสที่ 60%และ 100 ยูโร ตามลำดับ

การพัฒนาต่อไป จะเป็นการเพิ่มมูลค่าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เมื่อซื้อสำเร็จก็จะบันทึกเป็นรายได้จากโรงแรมปกติ เทียบกับเดิมที่เป็นค่าเช่า เราคาดว่าจะช่วยสร้างเพิ่มคุณค่าในปี 59 ได้ประมาณ 15 ล้านเหรียญยูโร (หลังรวมดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้เงิน) และเป็นการรุกตลาดใหม่คือ อเมริกาใต้และยุโรป อีกทั้งยังเพิ่มอัตราการเข้าเช่าได้อีกในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพิ่มอีก 5%

คงคำแนะนำ ซื้อ จุดเด่นเป็นหลักทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงเทียบกับกลุ่ม ปี 59 คาดไว้ที่ 18.3% ในวันศุกร์บริษัทจะมีประชุมกับนักวิเคราะห์ คาดว่าจะได้ข้อมูลใหม่ๆมาปรับปรุง ชอบ MINT ในประเด็นการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง กลยุทธ์การขยายตัว และการเติบโตจากภายนอกได้รวดเร็วขึ้น ด้วยการซื้อกิจการ

Back to top button