STGT เจอต้นทุนขายพุ่ง-บาทแข็ง ฉุดไตรมาส 3 พลิกขาดทุน 87 ล้านบาท
STGT เจอต้นทุนขายพุ่ง - บาทแข็ง ฉุดไตรมาส 3/67 พลิกขาดทุน 86.53 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกโต 125% แตะ 438 ล้านบาท
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 86.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 47.44 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก บริษัทฯมีต้นทุนขายในไตรมาสอยู่ที่ 6,112.8 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.2% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 47.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,145.5 ล้านบาท
โดยราคาน้ำยางธรรมชาติปรับตัวลดลง 4.7% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 54.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและน้ำยางสังเคราะห์ปรับตัว เพิ่มขึ้น 8.9% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้น 37.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ต้นทุนพันชิ้นที่ไม่ใช่น้ำยาง ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง ค่าพลังงานที่สูงขึ้นจากราคาไม้ฟืน รวมถึงการตั้งสำรองของสินค้าคงเหลือจากมูลค่าสุทธิที่จะได้รับซึ่งเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นเดือนกันยายนซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ ต้นปี 2566
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 438.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 194.96 ล้านบาท ซึ่งเป้นผลมาจาก มีสัญญาณเชิงบวกจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 9,593 ล้านชิ้นในไตรมาสนี้หรือเพิ่มขึ้น 13.8% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 26.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์และในทุก ภูมิภาค ทั้งถุงมือยางธรรมชาติแบบมีแป้ง (NRPD) ถุงมือยางธรรมชาติแบบไม่มี แป้ง (NRPF) และถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR)