ก.ล.ต. จ่อปรับเกณฑ์ “บริหารกองทุนส่วนบุคคล” เพิ่มข้อมูล-ทางเลือกลงทุน

ก.ล.ต. เตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (private fund) เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าถึงบริการจัดการลงทุนได้ในวงกว้าง โดยมีข้อมูลเพียงพอให้เลือกลงทุน และได้รับการคุ้มครองเพียงพอ


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ทบทวนหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับหลักสากลและเหมาะสมกับรูปแบบการให้บริการในปัจจุบันที่บริษัทจัดการได้ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลในรูปแบบพอร์ตมาตรฐาน (standard portfolio private fund) เป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นรูปแบบที่บริษัทจัดการจัดไว้ให้ลูกค้าเลือกโดยไม่ได้ออกแบบการลงทุนตามความต้องการลงทุนของลูกค้าเฉพาะราย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลในระยะยาว รวมทั้งให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลเพียงพอก่อนตัดสินใจลงทุน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จึงเห็นควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับรูปแบบกองทุนส่วนบุคคลในปัจจุบัน ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนให้ความเห็นชอบในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

1.) กำหนดแนวปฏิบัติเพิ่มเติมในการออกแบบนโยบายการลงทุนและการเสนอบริการกองทุนส่วนบุคคล

โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญตามหลักธรรมาภิบาลเกี่ยวกับการให้บริการกองทุนส่วนบุคคล (private fund governance)

2.) ให้บริษัทจัดการที่ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลรูปแบบพอร์ตมาตรฐานเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนโยบาย

การลงทุนและเงื่อนไขการให้บริการในแต่ละนโยบายการลงทุน โดยจัดทำข้อมูลตามรายการที่กำหนด เช่น นโยบายการลงทุน กลยุทธ์การลงทุนตามนโยบายการลงทุน สัดส่วนการลงทุน ข้อมูลเชิงสถิติของนโยบายการลงทุน เป็นต้น

โดยเปิดเผยเป็นการทั่วไป และทบทวน ปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันประจำทุกเดือน

3.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการวัดผลการดำเนินงานและการรายงานสถานะการลงทุนของกองทุนส่วนบุคคล

(4) ให้บริษัทจัดการส่งมอบคู่ฉบับสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้า

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1027  ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือทางอีเมล [email protected]  [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2567

Back to top button