BDMS โชว์กำไร Q3 แตะ 4.2 พันล้าน โต 9% รับรายได้ผู้ป่วยไทย-ต่างชาติพุ่ง
BDMS โชว์กำไรไตรมาส 3/67 เติบโต 9% แตะ 4.2 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้ผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติพุ่ง หนุน งวด 9 เดือน โต 12.02% และหมื่นล้านบาท
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,246.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,884.48 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 28,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 27,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 25,473 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย 6% และรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ 8% จากไตรมาส 3/66 อนึ่งแบ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยชาวการ์ตา 47% ชาวจีน 32% และชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 29% จากไตรมาส 3/66
นอกจากนี้ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้า อยู่ที่ 1,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากการ เพิ่มขึ้นของรายได้ของ บริษัท สหแพทย์เภสัช จ ากัด (MP) และบริษัท เซฟดรัก เซ็นเตอร์ จำกัด (SDC) และ มีรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของ Mövenpick BDMS Wellness Resort หลังเปิดให้บริการ BDMS Connect Center (อาคารประชุมและจัดเลี้ยง) ในไตรมาส 4/66
ขณะที่ บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหัก ค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 7,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ ประกอบกับการลดลงของดอกเบี้ยจ่าย จากการบริหารเงินที่มี ประสิทธิภาพ
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 67 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,654.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,404.02 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจาก รายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 81,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 77,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 71,698 ล้านบาท โดยมีการเติบโตที่ดีจากรายได้ผู้ป่วยชาวไทยอยู่ที่ 7% และรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติอยู่ที่ 10% จาก 9 เดือนของปี 66 โดยมีการเพิ่มขึ้นหลักจากผู้ป่วยชาวการ์ตา 47% ชาวจีน 30% และชาวอเมริกัน 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน