EMC งบ 9 เดือนปี 67 รายได้รวม 574 ล้านบาท ส่งซิกแผนเข้าประมูลงาน 5 พันลบ.
EMC เปิดงบ 9 เดือนปี 67 รายได้รวม 574 ล้านบาท เติบโต 43.48% ดันพลิกมีกำไรสุทธิ 0.40 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯเดินหน้าโครงการใหม่ มีแผนเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มเติม มูลค่าประมาณ 3,000 - 5,000 ล้านบาท
ดร.ชาลี จังวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 573.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173.94 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.48% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 400.03 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 0.40 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 159.75 ล้านบาท
สำหรับในไตรมาส 3/2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 228.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 97.26ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74.38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 217.75 ล้านบาท ปัจจุบัน EMC ยังคงมีงานโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์โรงพยาบาลตากสิน และโครงการก่อสร้างอาคารเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4.84 ล้านบาท และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่และบริการตามสิทธิการเช่า จำนวน 5.43 ล้านบาท
โดยการเติบโตของกำไรสุทธินั้นเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการบริหารภายในองค์กร ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลให้ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 3/2567 ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง EMC ยังได้ดำเนินการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนลงได้อีก 10-20% จากการส่งมอบงานได้เร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงรักษาคุณภาพของงานตามมาตรฐานที่กำหนด
สำหรับโครงการใหม่ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานเพิ่มเติม มูลค่าประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่างานเหล่านี้จะถูกบันทึกเป็น backlog ในช่วงต้นปีหน้า มุมมองต่อธุรกิจก่อสร้างในประเทศไทย คาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลและอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลดี เกื้อให้ EMC มีโอกาสได้รับงานก่อสร้างมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับศักยภาพและประสบการณ์ของบริษัทในด้านการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่