JAS ชูธงยิงสด “พรีเมียร์ลีก” 3 ประเทศ โกยรายได้ปีละหมื่นล้าน

“พิชญ์” มั่นใจรายได้เข้า JAS ปีละ 10,000 ล้านบาท หลังคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 6 ฤดูกาล เพียงผู้เดียวใน 3 ประเทศ ผ่านช่องทาง MONOMAX และ MONO29 ดันโมโนขึ้นเรือธงใหม่ ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก พร้อมเจรจาหาพันธมิตร ถ่ายทอดสดเสียงพากย์ฟุตบอลผ่านคลื่นวิทยุ ด้าน MCOT รับสนใจใช้บริการกลุ่มจัสมิน โบรกฯมองบวกหุ้น JAS-MONO ด้าน ADVANC รับผลดีทางอ้อม


นายพิชญ์ โพธารามิก ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ถึงโมเดลการสร้างรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแต่เพียงผู้เดียวใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และลาว อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ 6 ฤดูกาล (ตั้งแต่ปี 2025/2026-2030-2031) ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เข้ามามากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจาก MONOMAX (OTT) รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศด้วย แต่จะมองหาพันธมิตรทางการตลาด (Marketing partner) ด้วย

สำหรับลิขสิทธิ์ 6 ฤดูกาลดังกล่าว เบื้องต้นได้มีการตกลงกันแล้ว ทั้งนี้ในมุมของสัญญากำลังอยู่ในกระบวนการอนุมัติภายในของการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือ EPL โดยมีราคาลิขสิทธิ์อยู่ที่ 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท สำหรับสัญญาระยะเวลา 6 ปี

ขณะที่ ช่องทางการรับชม สามารถรับชมผ่านช่องทางหลัก คือ MONOMAX เป็น Streaming platform และ MONO29 ซึ่งเป็น Free-to-air platform (ฟรีทีวี) ของบริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เป็นหลัก

โดยมีแนวทางการจัดจำหน่ายผ่านทุก Network และ Mobile operators ด้วย ไม่ว่าจะเป็น App Store (IOS), Google Store, TRUE หรือ AIS เพื่อสนับสนุนให้คอนเทนต์มีการเข้าถึงผู้ชมได้มากสุด ซึ่งราคาจะถูกกว่าราคาตลาดปัจจุบันแน่นอน โดยมีนโยบายราคาเดียวไม่ว่าจะรับชมผ่านทางช่องทางไหน รักษาคุณภาพการถ่ายทอด ภาพคมชัดระดับ Full-HD ด้วยเทคโนโลยีการปรับ Auto bit rate ตามความเร็วของอินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ชม ซึ่งรับชมความละเอียด 4K

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าไม่สามารถดูผ่านช่องทาง IPTV (ดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต) ได้ เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ (Strategy) ในการจัดการดูเถื่อน (Piracy) แต่ลูกค้าสามารถดูผ่านกล่องได้ โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MONOMAX นอกจากนี้บริษัทพร้อมพิจารณาหาพันธมิตร (Partner) ถ่ายทอดสดเสียงพากย์ฟุตบอลผ่านทางคลื่นวิทยุด้วย

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียงรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ บนอินเทอร์เน็ตทีวี (InternetTV) และดิจิทัลทีวี (Digital TV) รวมถึงชุดวิดีโอสั้น (Clips package) ตลอดระยะเวลารายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ 2025/2026 หรือ 6 ฤดูกาล ในประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.91 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีกคือลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกมาครอบครองได้สำเร็จ มุ่งมั่นถ่ายทอดคอนเทนต์ให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก จากจำนวนคนทั้งสิ้น 96 ล้านคน ถือเป็นการปิดดีลลงทุนอภิมหาโปรเจกต์อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีกลุ่มบริษัทโมโน (MONO) อาทิ MONOMAX และช่อง MONO29 เข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำการตลาดและจัดจำหน่ายคนสำคัญ

สำหรับการได้รับลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ JAS และ MONO ในการร่วมกันขยายธุรกิจด้านคอนเทนต์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยมีความพร้อมด้านเงินทุนภายหลังการขายธุรกิจ 3BB รวมถึงเป็นการกระจายพอร์ตการลงทุนครอบคลุมทั้งธุรกิจด้านเทคโนโลยี ภายใต้การนำของ JTS และธุรกิจด้านโทรคมนาคม ภายใต้การนำของ JASTEL

กลุ่มบริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี และธุรกิจการจัดหาคอนเทนต์ซึ่งจะเพิ่มโอกาสการทำให้บริษัทสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวีและธุรกิจการจัดหาคอนเทนต์อย่างเต็มรูปแบบ และสอดคล้องกับแผนธุรกิจของกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะผลักดันให้ธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี และธุรกิจการจัดหาคอนเทนต์เป็นเรือธง (Flagship) ของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งการขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในตลาด ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพจะสามารถเพิ่มฐานลูกค้า คู่ค้า และเครือข่าย ผู้ติดตามของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งสมาชิกของธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคที่สนใจกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา

อีกทั้ง บริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการแต่งตั้งพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อทำการตลาด และการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพผ่านทางดิจิทัลทีวี (Digital TV) เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ซึ่งพันธมิตรดังกล่าวอาจจะเป็นคู่ค้าปัจจุบันที่มีศักยภาพ ซึ่งหากมีความคืบหน้าบริษัทฯ จะดำเนินการเปิดเผยข้อมูลและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่ากลุ่มบริษัทฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนสมาชิกสปอนเซอร์และโฆษณา

นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้บริการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของทรูแต่อย่างใด โดยเฉพาะในรายการวิทยุ สปอร์ตเรดิโอ อย่างไรก็ตามเมื่อเปลี่ยนเจ้าของลิขสิทธิ์มาเป็นกลุ่ม JAS อาจมีการหารือกันภายในก่อน ว่าจะมีการเจรจากับกลุ่มใหม่หรือไม่

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุ กรณี JAS ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ สำหรับประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ในทุกช่องทางถ่ายทอดสด (อินเทอร์เน็ต ทีวี, ดิจิทัล ทีวี, ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี ไอพีทีวี และ OTT) 3-6 ฤดูกาล (แล้วแต่วันยืนยันข้อตกลงระหว่าง JAS กับเจ้าของลิขสิทธ์) มีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2025/2026 โดยบริษัทมองเป็นบวกต่อ JAS, MONO และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ส่วนบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ที่เสียลิขสิทธิ์มองเป็นกลาง

ทั้งนี้ JAS ภายหลังขายธุรกิจอินเทอร์เน็ตให้ AIS ไปแล้วส่วนหนึ่ง ยังเหลือรายได้จากธุรกิจนี้ปีละ 4 พันล้านบาท ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ที่ได้มาครั้งนี้ จะเป็นการหนุนธุรกิจอินเทอร์เน็ตทีวีของ JAS ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ธุรกิจหลักที่มีอยู่ในปัจจุบัน (บริการ IPTV ภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV) ปัจจุบันมีลูกค้าราว 7 แสนราย (11% ของรายได้ Q2/67) ส่วนรายได้หลัก JAS ปัจจุบัน 64% ของรายได้มาจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายในและนอกประเทศและการขุด Bitcoin แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

ด้าน MONO มีฐานรายได้ปัจจุบันปีละ 2,000 ล้านบาท ในฐานะเจ้าของช่องดิจิทัลทีวี Mono 29 ที่น่าจะมีรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น และการขายแพ็กเกจพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ผ่าน OTT Platform Monomax ซึ่งมีสมาชิกราว 8.6 แสนราย แนะนำ “เก็งกำไร”

ขณะที่ ADVANC คาดว่าจะได้ประโยชน์ในฐานะที่ยังเป็นพันธมิตรกับ JAS ที่น่าจะมีโอกาสนำคอนเทนต์ยอดนิยมไปให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ถือว่าลดความเสี่ยงคู่แข่งขันที่จะเข้ามาร่วมประมูลคลื่นในอนาคตด้วย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 305 บาท

ส่วน TRUE มองผลกระทบจำกัด รายได้ธุรกิจ Pay TV ปัจจุบันราว 4-5% ของรายได้รวม (ลูกค้าการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือ EPL คาดต่ำกว่านั้น) ขณะที่มีภาพบวกคู่แข่งประมูลคลื่นลดลงช่วยชดเชย แต่ควรรอหุ้นซึมซับจิตวิทยาลบก่อนสะสมใหม่

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ยังระบุเพิ่มเติมว่า กรณีถ่ายทอดสด 3 ฤดูกาล มูลค่าลิขสิทธิ์จะอยู่ที่ราว 197.7 ล้านเหรียญฯ ถือว่าไม่แพงหากเทียบราคาประมูลรายการดังกล่าวของไทยที่มีการเปิดเผยล่าสุดที่ 300 ล้านเหรียญฯ (ฤดูกาล 2016/2017-2018/2019)

ส่วน 6 ฤดูกาล (JAS ต้องยืนยันข้อตกลงก่อน 1 ธ.ค. 2567) จะอยู่ที่ราว 560 ล้านเหรียญฯ โดยการจ่ายค่าลิขสิทธ์จะอยู่ในลักษณะการทยอยจ่าย (ยังไม่มีรายละเอียด) JAS คาดใช้เงินสดและการก่อหนี้รองรับการลงทุน แม้เฉพาะค่าลิขสิทธิ์ โดยประเมินฐานะการเงิน JAS ปัจจุบันรองรับได้สิ้นสุด Q2/67 หากอิงจาก 1)เงินสดในมือ 4.7 พันล้านบาท 2)เงินที่จะได้รับจากการขายหุ้นทุนซื้อคืนหุ้นละ 3.5 บาท 300.7 ล้านหุ้น (ระหว่าง 24 ต.ค. 2567-24 มี.ค. 2568) ราว 1 พันล้านบาท 3)สถานะเป็น Net Cash เพราะแม้ JAS มีหนี้สินรวม 4.4 พันล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย 736 ล้านบาท ขณะที่ฐานทุนสูง 1.07 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดียังต้องติดามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเงื่อนไขการชำระค่าลิขสิทธิ์และต้นทุนอื่น ๆ

นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์มีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้ได้มาซึ่งคอนเทนต์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกันได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งแม้ได้ยื่นข้อเสนอแข่งขันไปในราคาที่เหมาะสม แต่เนื่องจากมีผู้ร่วมประมูลรายอื่นเสนอราคาสูงกว่า จึงได้รับสิทธิการถ่ายทอดสำหรับฤดูกาลหน้าไป

อย่างไรก็ตาม สมาชิกทรูวิชั่นส์ยังคงสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ได้อย่างเต็มอิ่มจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า (2568) รวมทั้งยังสามารถรับชมคอนเทนต์กีฬาฟุตบอลระดับโลกอื่น ๆ บนทรูวิชั่นส์ เช่น ลาลีกา, บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ซาอุดี คิงส์คัพ, เอลีก (ออสเตรเลียน ลีก), ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่ายูโรปา ลีก,  ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, เอฟเอคัพอังกฤษ  รวมถึงฟุตบอลไทยลีก 1 ไทยลีก 2, ช้างเอฟเอคัพ  และรีโวคัพ

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ ราคาหุ้น TRUE ตอบสนองในทางลบ เนื่องจากบริษัทซึ่งมีภาพลักษณ์เป็น “King of Sports” สูญเสียคอนเทนต์กีฬายอดนิยมไป มองว่าการปรับตัวลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสในการซื้อหุ้น TRUE คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TRUE ราคาเป้าหมาย 13.30 บาท เนื่องจากคาดการณ์การเติบโตของกำไรหลัก 89% ในปี 2568 และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรขึ้น

ก่อนที่ JAS จะได้รับสิทธินี้ TRUE ได้เป็นผู้ถ่ายทอดหลักของ EPL ในประเทศไทยทุกฤดูกาล (ยกเว้น 3 ฤดูกาลช่วงปี 2013-2016) เชื่อว่ากรณี JAS ได้สิทธิ์ EPL นั้น มีผลเป็นกลางต่อ TRUE เนื่องจากรายได้และค่าใช้จ่ายลงทุน (capex) อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย TRUE ยังคงเป็นเจ้าของสิทธิ์การถ่ายทอดฤดูกาล 2024/2025 (16 สิงหาคม 2567-25 พฤษภาคม 2567) ทำให้ผลกระทบทางการเงินต่อ TRUE จากการชนะของ JAS จะไม่เกิดขึ้นทันที

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ารายได้จากสมาชิก True Vision จะลดลง 6% ต่อปีในช่วงปี 2567-2569 โดยหากไม่มี EPL รายได้อาจลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์

Back to top button