AAV รายได้ผู้โดยสารพุ่ง-ค่าใช้จ่ายลด ดันไตรมาส 3 พลิกกำไร 3.4 พันล้านบาท

AAV รายงานงบไตรมาส 3/67 พลิกมีกำไร 3.4 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากผู้โดยสารเพิ่มขึ้น พ่วงค่าใช้จ่ายด้าน น้ำมันเชื้อ ต้นทนุขายและให้บริการลด หนุนงวด 9 เดือนแตะ 3.1 พันล้านบาท


บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 พลิกมีกำไร ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 พลิกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,446.38 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1,694.69 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 15,322.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 9,898.7 ล้านบาท จากความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นทั้งการเดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน อินเดีย และจีน ประกอบกับค่าโดยสาร เฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินบาทในไตรมาสนี้

ขณะที่ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 10,931.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 7% เป็น 4.89 ล้านคน และอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น 7% เป็น 1,847 บาท

อีกทั้ง บริษัทฯ มีรายได้จากบริการเสริมอยู่ที่ 1,864.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี ปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมบริการฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่องและค่าบริการเลือกที่นั่ง แต่ถูก ชดเชยบางส่วนด้วยค่าธรรมเนียมการดำเนินการที่ลดลงตามปริมาณการจองตั๋วโดยสารผ่าน OTA (Online Travel Agency) ที่สูงขึ้นและรายได้จากการสั่งจองอาหารบนเที่ยวบินล่วงหน้าที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย ส่งผลให้ รายได้จากบริการเสริมต่อผู้โดยสารลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 382 บาทในไตรมาสนี้

นอกจากนี้ รายได้อื่นๆ อยู่ที่ 4,391.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,756% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจาก อัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 4,236.2 ล้านบาท จากการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งปรับจาก 37.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสก่อน เป็น 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้

ส่วนค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ อยู่ที่ 10,432.6 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตรา แลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อนมาเป็นกำไรในไตรมาสนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ใกล้เคียงกับปีก่อน จากราคาน้ำมันอากาศยานและค่าใช้จ่ายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ ลดลงเป็นหลัก ซึ่งแบ่งเป็น ดังนี้

ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 3,798.4 ล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันอากาศยานที่ลดลงมาอยู่ที่ 96.0 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาท ในไตรมาสนี้ ชดเชยด้วยปริมาณการใช้เชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น 3%

ต้นทุนขายและการให้บริการอื่นๆ อยู่ที่ 2,536.0 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ บมจ. ท่าอากาศยานไทยยกเลิกการเก็บค่าใช้จ่ายระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) กับสายการบินตั้งแต่เดือนเมษายน 67 และบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 859.4 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม AirAsia MOVE ชดเชยบางส่วนด้วยค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,121.36 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,347.81 ล้านบาท

Back to top button