“ชัยยศ” มอง SET ผันผวน แนะลงทุน ADVANC-CBG  

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยฝ่ายผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (13 พ.ย.67 ) ว่าแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยตอนนี้น่าจะมีความแกว่งและผันผวนค่อนข้างสูง ถ้าหากมีเรื่องของ Trade War เข้ามาเกี่ยวข้อง นักลงทุนควรจะต้องเตรียมรับมือด้วย ทั้งจากปัจจัย Trump Effect กับประเด็นการเมืองไทย ที่สร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์แสดงมุมมองว่าประเด็นการเมืองจะต้องรอดูวันที่  22 พ.ย.67 เนื่องจากคาดการณ์ยากว่าจะออกมาในทิศทางไหนอย่างไร แต่ยังคงเชื่อว่าลึกๆน่าจะออกมาด้วยดี

ขณะที่กรณี Trump Effect ในเรื่องสงครามการค้า หรือ Trade War หุ้นกลุ่มการส่งออก น่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างแรง เนื่องจากตัวสินค้าที่ส่งออกไปมีการอิงกับทางจีนหลายตัว อาทิ รถยนต์ไฟฟ้าของจีน ส่งให้ดีมานด์ยางพาราลดลง หรือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI จากทางจีน

โดยนักวิเคราะห์ เปิดเผยข้อมูล SET Index ย้อนหลังไปช่วงกลางปี 2561 ตอนมีเรื่องของ Trade War หุ้นไทยกับหุ้นจีนล้อไปด้วยกัน คือลดทรุดตัวลงมาค่อนข้างแรง แต่หากเมื่อใดมีการเจรจาเป็นเฟด หุ้นไทยจะรีบาวด์ขึ้นมา จึงต้องเฝ้าจับตาดูจากนี้ว่าจีนจะมีการเปิดเจรจาคุยกับทางสหรัฐอย่างไรต่อไปบ้าง

ทางด้านการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ด้วยเม็ดเงิน 10 ล้านล้านหยวน (หรือราว 48 ล้านล้านบาท) อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากในตัวเม็ดเงินที่อัดฉีดต้องการสร้างดีมานด์อุปโภคบริโภคภายในประเทศจีน แต่ถ้ามีเรื่องของกำแพงภาษีของสหรัฐเข้ามา ยังคงต้องรอดูมาตรการต่อไป เพราะไทยก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

อย่าไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงผันผวนสูงค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นช่วงประกาศงบไตรมาส 3 ซึ่งถ้าไหนออกมาดี จะโดน sell on fact จึงเชื่อว่า Index ไม่น่าไปไหนไกล ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อต้องดูทิศทางของ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะมีมุมมองออกมาอย่างไร และรอสัปดาห์หน้าดูเรื่องพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.67 นี้ แกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบ

ให้แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,440 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักวิเคราะห์จาก KSS มองไปที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 67 แนะนำตัว  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 3 ผลงานออกมาดี และไตรมาส 4/67 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจะมีดีมานด์การซื้อซิมจำนวนมาก แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 305 บาท

นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG งบไตรมาส 3/67 ออกมาค่อนข้างดี อีกทั้งบอร์ดผู้บริหารปรับเป้าหมายยอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายในประเทศดีขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน  89 บาท