BANPU ไตรมาส 3 พลิกขาดทุน 829 ล้าน ลุ้น Q4 เทิร์นอะราวด์ รับยอดขายก๊าซ-ถ่านหินพุ่ง
BANPU รายงานงบไตรมาส 3/67 พลิกขาดทุน 829 ล้านบาท ขณะที่กำไร 9 เดือนแรกแตะ 1.6 พันล้านบาท ลุ้นผลงานไตรมาส 4/67 ฟื้นตัว รับไฮซีซั่นฤดูหนาว หนุนยอดขายก๊าซและถ่านหินเพิ่มขึ้น โดยคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 7 บาท
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/67 ขาดทุนกำไรสุทธิอยู่ที่ 829.79 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,083.58 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยราคาตลาดของถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง แม้ว่าจะมีปริมาณการขายถ่านหินรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงการลดลงของผลการดำเนินงานจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาอันเป็นผลจากสภาพอากาศที่ไม่ร้อนเท่าปีก่อน
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีการรับรู้ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นผลจากการแข็งค่า ของสกุลเงินบาทต่อสกุลเงินสหรัฐในระหว่างไตรมาสสามของปีโดยกลุ่มบริษัทยังคงด าเนินมาตรการในการบริหาร จัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อให้บริษัทสามารถเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาด พลังงานได้อย่างมั่นคงและมุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รายได้จากธุรกิจถ่านหิน 844 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้รวมจากธุรกิจถ่านหินเพิ่มขึ้น 86 ล้านเหรียญ สหรัฐหรือร้อยละ 11 เป็นผลจากปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้น 0.97 ล้านตันหรือคิดเป็นร้อยละ 13 ราคา ขณะที่ต้นทุนขายเฉลี่ยใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ส่วนรายได้จากธุรกิจก๊าซจำนวน 178 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รวมกำไรจากสัญญาแลกราคาซื้อขายและสิทธิที่จะซื้อและขายก๊าซธรรมชาติจำนวน 41 ล้านเหรียญสหรัฐโดยรายได้จากธุรกิจก๊าซเพิ่มขึ้นจำนวน 6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิด เป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งต้นทุนการแยกก๊าซและขนส่งเฉลี่ย 0.93 เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต ลดลง 0.02เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมาตรการการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่าง ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 69 ล้าน เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตร มาสเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่งวดผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,658.92 ล้านบาท ลดลง 74.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,626.29 ล้านบาท
บริษัท หลักทรัพย์ หยวน ต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ถึงแนวโน้มไตรมาส 4/67 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า หลังได้รับปัจจัยหนุน High Season ของการใช้พลังงานและต้นทุนการเงินลดลงหลังนำ BKV เข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Spin-off BKV) รวมไปถึงการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (FX) จำนวนมากไม่เกิดขึ้น
ขณะที่ ช่วงปลายปีมีปัจจัยสนับสนุนจาก High Season ในฤดูหนาว และที่งบไตรมาส 4/67 ฟื้นตัว ขณะที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ลุ้นนโยบายสหรัฐฯ ผ่อนปรนข้อจำกัดใบอนุญาตส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์แนะนำรอจังหวะลงทุนหลังผ่านงบไตรมาส 3/67 โดยคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 7.00 บาท