สแกนงบ “สายการบิน” กำไร Q3 เทิร์นอะราวด์ THAI ท็อปฟอร์ม โต 700%
4 หุ้นสายการบินกวาดกำไรไตรมาส 3 รวมกว่า 1.7 หมื่นล้าน ฟาก “การบินไทย” โตทะลัก 700% แตะ 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ AAV และ NOK เทิร์นอะราวด์พลิกมีกำไรจากขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่ม “สายการบิน” จำนวน 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK หลังจากที่ล่าสุดรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 67 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.67) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยมีกำไรรวมกันที่ 1.72 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,901% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 862 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกมีกำไรรวม 2.29 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1.87 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ AAV รายงานผลงานไตรมาส 3 พลิกมีกำไร 3.44 พันล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 1.69 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 4 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้นในช่วงไตรมาสนี้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโตระดับ 20-23% และมีตัวเลขผู้โดยสารแตะระดับ 20-21 ล้านคน
ขณะที่ NOK รายงานผลงานไตรมาส 3 พลิกมีกำไร 676 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 891 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการกลับรายการค้าเผื่อการด้อยค้าสินทรัพย์สิทธิการใช้เครื่องบิน รวมถึงบริษัทรายงานค่าใช้จ่ายรวม ซึ่งลดลงอย่างมากถึง 46.10% เมื่อเทียบกับ 7,507.50 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทมีต้นทุนทางการเงิน ลดลง 124.70 ล้านบาท หรือ 16% จาก 779.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้าน THAI รายงานกำไรไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 711% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนมีกำไร 1.51 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1.63 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผลจากการรับรู้ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 4,829 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 10,119 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 6,655 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน 1,705 ล้านบาท
ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ปี 67 บริษัทมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 45,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,820 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 37,008 ล้านบาท หรือ 23.80% โดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.94 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวลดลงจาก 77.30% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 76.10%
ส่วน BA รายงานกำไรไตรมาส 3 อยู่ที่ 671 ล้านบาท ลดลง 64% จากปีก่อนมีกำไร 1.91 พันล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนมีกำไร 3.25 พันล้านบาท ลดลง 6% จากปีก่อนมีกำไร 3.45 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากในไตรมาส 3 มีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 5,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,454 ล้านบาท
รวมถึงค่าใช้จ่ายต้นทุนขายและบริการอยู่ที่ 4,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในการปฏิบัติการบินของธุรกิจสายการบิน ได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, เงินจ้างและผลประโยชน์, พนักงาน, ค่าซ่อม, บำรุงเครื่องบิน และค่าบริการผู้โดยสาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ร้อยละ 13.70 ร้อยละ 12.50 และร้อยละ 8.50 ของค่าใช้จ่ายรวมตามลำดับ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย อยู่ที่ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่คือค่าสำรองที่นั่งผ่านตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารอยู่ที่ 154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.70% จากจำนวน ผู้โดยสารที่ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น