DELTA หุ้นยอดนิยมทั้งที่แพงเวอร์
จู่ ๆ หุ้นอีเลคโทรนิคส์อย่าง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ก็ได้รับความสนใจจากวงการตลาดหุ้นไทย
จู่ ๆ หุ้นอีเลคโทรนิคส์อย่าง บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ก็ได้รับความสนใจจากวงการตลาดหุ้นไทย น่าจะกลายเป็นหุ้นที่มาร์เก็ตแคปสูงสุดในตลาด เพราะโดยพื้นฐานไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนื่องด้วยมีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นต่อเนื่องเกิน 12% ทุกปี โดยในปี 2565 มีอัตรากำไรสุทธิ 12.84% ปี 2566 ที่ 12.48% และ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.48%
ในการที่มาร์เก็ตแคปเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับ 1 เพราะราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดสูงถึง 2.06 ล้านล้านบาท จนกระทั่งมาร์เก็ตแคปคิดเป็น 13% ของมูลค่าตลาดโดยรวม ทำให้หุ้นตัวนี้มีอิทธิพลต่อตลาดอย่างสูงโดยมาร์เก็ตแคปของหุ้น DELTA ยังสูงกว่ามูลค่าของหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นไทยรวมกันเสียอีก
เนื่องจากความเป็นเบอร์ 1 ที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุดของตลาดหุ้นไทย ทำให้กองทุนหุ้นไทยและต่างประเทศ ต่างก็ไม่สามารถปฏิเสธที่จะเข้าไปถือหุ้นตัวนี้ จำยอมต้องเข้าไปซื้อหุ้น DELTA เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันเหล่านี้ต้องเจอกับแรงกดดันในการคงผลตอบแทนให้สูงกว่า “Benchmark”
การยกประเด็นว่า หุ้น DELTA ที่มี Free Float 23.08% จะถูกเหมารวมกลายเป็นว่า มีแนวโน้มจะถูก ถูกต้อนราคาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนต้องกลายเป็นประเด็นร้อนของตลาดหุ้นไทยตอนนี้
ในเงื่อนไขที่เป็นปัญหาซับซ้อนของการเข้าลงทุนของกองทุนหุ้นเหล่านี้ ยังทวีความเข้มข้นขึ้นอีก เพราะข้อจำกัดการถือครองของแต่ละกองทุนที่ถูกกำหนดไม่ให้ถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเกินกว่า 10% ของมูลค่ากองทุน
ภาวะของตลาดหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ยังเป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของผลประกอบการคงจะทำให้หุ้นเดลต้าเป็นที่เลื่องลือกันต่อไปอีกสักพักหนึ่ง จนกว่าจะมีหุ้นที่น่าสนใจเข้ามาแทนที่ เพราะในยามนี้อุตสาหกรรมแผงวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยเป็นดาวเด่นในตลาดไอทีทั่วโลก
การที่เดลต้ามีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 12% ต่อเนื่องเป็นระยะยาวนานก็ทำให้เหตุผลของกองทุนหุ้นที่เข้าซื้อและถือเดลต้านั้นสมเหตุสมผล ถึงแม้ว่าราคาล่าสุดเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 162 บาทจะถือว่าแพงเกินไปเมื่อเทียบกับบุ๊กแวลูที่ 6.19 บาทก็ตามที
วิษณุ โชลิตกุล