SPRC ลุ้นค่าการกลั่น Q4 ฟื้นตัว ลุยขยายปั๊มน้ำมัน-กาแฟ “ชาวดอย” 200 สาขาภายใน 5 ปี

SPRC ลุ้นค่าการกลั่นไตรมาส 4/67 ฟื้น รับไฮซีซั่น! เดินหน้าขยายปั๊ม “คาลเท็กซ์” ดันยอดขายธุรกิจค้าปลีกน้ำมันโตตามเป้า 10% เร่งเครื่องรุกธุรกิจนอนออยล์ลุยผุดร้านกาแฟ “ชาวดอย” ครบ 200 สาขาภายใน 5 ปี พร้อมชู 4 กลยุทธ์ สร้างผลประกอบการที่แข่งขันได้และให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต


นางสาวจุฑาทิพ พาชิยานุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ และนางสาวนงนภา ทองพิทักษ์ถาวร รักษาการผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,850 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท และบริษัทขาดทุนสุทธิ 2,216 ล้านบาท สาเหตุจากสต็อกน้ำมันและค่าการกลั่นทางการตลาดที่ลดลงมาอยู่ที่ 4.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 8.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 1,850 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ว่า SPRC จะต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างผลประกอบการที่แข่งขันได้และให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น และรักษาความสามารถในการแข่งขันผ่าน 4 กลยุทธ์ที่สำคัญได้แก่ 1. Enterprise margin การเพิ่มอัตรากำไรขององค์กรผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารห่วงโซ่คุณค่าจากการดำเนินงานอย่างครบวงจรคือตั้งแต่น้ำมันดิบสู่กระบวนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้า

2.Reliability and Utilization การดำเนินงานด้วยความปลอดภัยและเชื่อถือได้คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการใช้กำลังผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า 3. Cost efficiency การเพิ่มประสิทธิในการบริหารต้นทุนด้วยการตัดสินใจที่ถูกต้องตามต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างสมเหตุสมผล และ 4. Smart investment การลงทุนในเวลาที่เหมาะสมตอบแทนที่ดีที่สุด

อีกทั้งบริษัทยังมีแผนบูรณาการธุรกิจ และการสร้างคุณค่าในการดำเนินธุรกิจ SPRC คือการ intergrade โรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจจัดจำหน่ายเข้าด้วยกัน เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมัน SPRC มีประสิทธิภาพสูงและมีหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันโดยมีกำลังการกลั่นนมันน้ำมันดิอยู่ที่ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนธุรกิจจัดจำหน่ายยังรวมไปถึงการจัดตลาดค้าส่งในและต่างประเทศ ขายผลิตภัณฑ์อื่น และการจำหน่ายน้ำมันอากาศยานในสนามบินสุวรรณภูมิเป็นต้น

นอกจากนี้บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือและที่ได้รับสิทธิเพียงในการทำธุรกิจน้ำมันภายใต้ชื่อ “คาลเท็กซ์” รายเดียวในประเทศไทย และล่าสุดเมื่อวันวันที่ 10 กันยายน 2567 บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือที่ได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับบริษัท เพียวพลังงานไทย จำกัด (เพียวไทย)

โดยจะปรับปรุง 78 สถานีบริการน้ำมันเพียวไทยเดิมภายใต้แบรนด์ “เอสโซ่” มาเป็นสถานีบริการน้ำมัน “คาลเท็กซ์” และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม ปี 2568 และจะส่งผลให้จำนวนสถานีบริการคาลเท็กซ์เพิ่มขึ้นเป็น 528 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายสถานีน้ำมันต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค โดยปัจจุบันบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการคาลเท็กซ์เติบโต 10% ต่อปี นอกจากนี้มีแผนที่จะขยายร้านกาแฟชาวดอยครบ 200 สาขาภายใน 5 ปี

สำหรับแนวโน้มกำลังการผลิตในไตรมาส 4/67 เมื่อเทียบไตรมาส 3/67 ในด้านของตลาดสิงค์โปรมีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับความต้องการน้ำมันดิบช่วงฤดูหนาวไปจนถึงต้นปีหน้าดีขึ้น ทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะทำให้ค่าการกลั่นตลาด (market GRM) ไตรมาส 4/67 ทีมีทิศทางดีขึ้น และคาดว่าะคงกำลังการผลิตไว้ในระดับที่สูงไว้ได้ ส่วนในปี 2568 ไม่แผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น แต่จะมีแผนปิดปรับปรุงปี 2569

Company Snapshot

Back to top button