SABUY รูด 7% เซ่นงบไตรมาส 3 พลิกขาดทุน 865 ล้านบาท “ตลท.” จ่อขึ้น CB เริ่ม 18 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 พ.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ณ เวลา 11:28 น. อยู่ที่ระดับ 0.56 บาท ลบ 0.04 บาท หรือ 6.67% สูงสุดที่ระดับ 0.59 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.49 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.30 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลดลงวันนี้ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.67 ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 865.24 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 37.28 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มบริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 1,264.8 ล้านบาท ลดลง 48.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ 2,456.7 ล้านบาท โดยเป็นมีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 591.4 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 9.5% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ ลดลง 15.0% ที่มีรายได้บริการอยู่ที่ 695.7 ล้านบาท

โดยสาเหตุหลักเกิดจากในไตรมาส 3 กลุ่มบริษัทได้มีการจำหน่ายธุรกิจ outsourcing บริการจัดหาคนงาน ออกจากกลุ่ม ซึ่งได้แก่ Sabuy Alliance และ SK Human เนื่องจากไม่ได้อยู่ในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท ทำให้รายได้ลดลงจากการจำหน่ายกลุ่มธุรกิจดังกล่าว

ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 586.1 ล้านบาท ลดลง 63.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,621.3 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากการเสียอำนาจการควบคุมบริษัทย่อยใน SBNEXT ทำให้กลุ่มบริษัทหยุดนำงบการเงินของ SBNEXT มารวมในงบการเงินของกลุ่มบริษัท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 67 เป็นต้นมา ซึ่ง SBNEXT มีธุรกิจจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเช่าซื้อ ซึ่งมีสัดส่วนสำคัญในกลุ่มรายได้จากการขายของกลุ่มบริษัท

ทั้งนี้ ส่งผลให้รายได้จากการขายลดลงอย่างเป็นสาระสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน งวด 3 เดือน ลดลง 29.7% ส่วนหนึ่งลดลงจากธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าของ LOVLS ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 จะเป็นช่วง Top season ในการจำหน่ายสินค้า เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเมื่อเข้าไตรมาส 3 ยอดจำหน่ายสินค้าจะเริ่มลดลง ส่งผลให้ยอดขายในภาพรวมของกลุ่มลดลงจากไตรมาสก่อน

ส่วนของรายได้จากการให้บริการตามสัญญาและดอกเบี้ยรับอยู่ที่ 73.2 ล้านบาท ลดลง 48.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 140.8 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักจากการเสียอำนาจการควบคุมบริษัทย่อยใน SBNEXT ตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเช่าซื้อลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้ง บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวม 918.4 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิในส่วน ของบริษัทใหญ่จำนวน 865.2 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อย จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน BZB บางส่วนให้กับบุคลภายนอกกลุ่มบริษัท โดยรับรู้ผลขาดทุน อยู่ที่ 575.4 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 67 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 5,740.52 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 383.84 ล้านบาท

นอกจากนี้ SABUY แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าขอเรียนให้ทราบว่าตามหมายเหตุประกอบงบ การเงิน ซึ่งได้เผยแพร่ไปแล้ว นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้เงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้ยืมระยะยาว และดอกเบี้ยที่ครบกำหนดตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ตามจำนวน

รวมถึงกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมียอดคงเหลือของเงินเบิกเกินบัญชี เงินกู้ยืมระยาว จากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระเมื่อทวงถาม และดอกเบี้ยค้างจ่าย กับสถาบันการเงินนั้น จำนวน 118.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

อีกทั้งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 บริษัทฯ ได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทฯ ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ SABUY258A หุ้นกู้SABUY254A และหุ้นกู้ SABUY24DA ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 รวมจำนวนทั้งสิ้น 3,795.8 ล้านบาท เพื่อขอแก้ไข และผ่อนผันข้อกำหนดสิทธิ เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทฯ มีเวลาในการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน มีโอกาสในการฟื้นฟูธุรกิจหรือเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและเพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถชำระคืนหนี้ได้ในอนาคต โดยเสนอให้ถือหุ้นกู้พิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (Maturity Date) ขยายออกไปอีก 3 ปี และปรับลดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีการบริหารจัดการอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสภาพคล่องของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงแผนการดำเนินงานธุรกิจ โดยทางกลุ่มบริษัทและบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ความรู้และความชำนาญในส่วนของกลุ่มงานต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนนโยบายการบริหาร และการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดที่จะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงอยู่ระหว่างการดำเนินการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องอย่างเพียงพอและมีความสามารถในการชำระหนี้เมื่อครบกำหนดและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมขึ้นเครื่องหมาย CB หุ้น SABUY เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า50% ของทุนชำระแล้ว โดยให้มีผลวันที่ 18 พ.ย.67 ซึ่งหลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมายข้างต้น จะต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance (คือ สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์นั้น) ตั้งเเต่วันที่ขึ้นเครื่องหมายเป็นต้นไป จนกว่าจะแก้เหตุดังกล่าวได้