TASCO มั่นใจ Q4 ดีมานด์ “ยางมะตอย” พุ่ง แย้มตุนสต็อกน้ำมันดิบถึงครึ่งแรกปี 68
TASCO มั่นใจไตรมาส 4/67 ดีมานด์ “ยางมะตอย” พุ่งรับรัฐอัดงบปี 68 แย้มสั่งซื้อน้ำมันดิบเข้าโรงกลั่น “มาเลเซีย” 1 ลำเรือ คาดส่งมอบเดือน พ.ย.นี้ หนุนสต็อกผลิตยางมะตอยถึงครึ่งแรกของปี 68
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 16 พฤจิกายน 2567 ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 734.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 264.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 201.69 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้ขายและบริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 42% เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของตลาดในประเทศที่ขึ้นสูงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการจัดสรรงบประมาณปี 2567 ของรัฐบาลในช่วงปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยยอดขายยางมะตอยในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.35 แสนตัน ขณะที่ ล่าสุด ภายหลังรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับปี 2568 เรียบร้อยแล้วคาดการณ์ว่าความต้องการ (Demand) ยางมะตอยจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2567 ไปจนถึงช่วงครึ่งแรกปี 2568 ทั้งนี้ บริษัทยังคงเตรียมเข้าประมูลงานในช่วงไตรมาสนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนทิศทางการดำเนินงานตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทมีการเติบโตกลับมาเป็นปกติ อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา รัฐบาลมีการอนุมัติงบประมาณลงทุนโครงการต่างๆ ค่อนช้างล่าช้า โดยมีการอนุมัติไปเมื่อช่วงเดือน เมษายน 2567 ขณะที่บริษัทเริ่มเห็นตัวเลขความต้องการใช้ยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2567 ถึงไตรมาส 4 ปี 2567 ดังนั้นบริษัทมองว่ายอดขายยางมะตอยของบริษัทยังคงมีแนวโน้มการเติบโตเหมือนกันไตรมาสที่ 3 ปี 2567 แต่อาจไม่ได้มียอดที่สูงเท่ากันมากนัก
ทั้งนี้ การอนุมัติงบประมาณจากภาครัฐช่วงเดือน กันยายน เพื่อลงไปสู่หน่วยงานภาครัฐต่างๆ จะทำให้เกิดความต้องการใช้ยางมะตอยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะมีความต้องการสำหรับงานประเภทซ่อมบำรุง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ส่วนงานก่อสร้างถนนคาดการณ์จะเริ่มช่วงเดือน มกราคม 2568 ดังนั้นเชื่อว่าการเติบโตจะเพิ่มอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4
ส่วนตลาดต่างประเทศในไตรมาส 4 ปี 2567 ยังถือว่ามีแนวโน้มที่ดีในตลาดหลักหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเป็นผลมาจากช่วงการทำงาน (working seasons) ยกตัวอย่าง ประเทศอินโดฯ ไตรมาส 4 ปี 2567 ที่มีความต้องการใช้ยางมะตอยค่อนข้างมาก เนื่องจากภาครัฐมีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อใช้ในการก่อสร้างถนน ดังนั้นหากมองในภาพรวมบริษัทคาดการณ์ว่าการเติบโตของยอดขายในตลาดต่างประเทศยังคงเติบโตใกล้เคียงปี 2566
ขณะที่ สถานการณ์ซื้อน้ำมันดิบเข้าโรงกลั่นในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันบริษัทมีการสั่งซื้อแล้วจำนวน 1 ลำเรือ และคาดการณ์ว่าจะได้รับช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 และจะส่งผลให้บริษัทมีสต็อกน้ำมันดิบใช้สำหรับผลิตยางมะตอยได้ถึงมกราคม 2568
“หากถามถึงการซื้อน้ำมันดิบจากสาธารณรัฐโบลีวาร์เวเนซุเอลานั้น บริษัทยังไม่มีการสั่งซื้อได้ เนื่องจากภายหลักการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทุกคนต่างยังรอความชัดเจนของนโยบายต่างๆ” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีข่าวอัพเดต โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ในการจัดซื้อหุ้น บริษัท ไทย สเลอรี่ซิล จำกัด (TSS) จำนวน 1,864,998 หุ้น ในจำนวนหุ้นละ 200 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 372,999,600 บาท หรือ 37.50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายทั้งหมดของ TSS จากผู้ถือหุ้นปัจจุบันรายอื่นของ TSS โดยหลังจากการจัดซื้อหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะมีสัดส่วนในการถือหุ้น 100% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายทั้งหมดของ TSS จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นนี้บริษัทฯ จะเข้าควบคุมการบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพใน ด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ขณะที่สถานการณ์ลูกหนี้ค้างชำระในปัจจุบันประมาณ 80% ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่ครบกำหนด ส่วนลูกหนี้ที่ค้างชำระนานบริษัทยังคงเฝ้าติดตาม และกลุ่มลูกหนี้ผู้รับเหมาเริ่มมีงานเข้ามา ซึ่งจะส่งผลทำให้มีสภาพคล่องเพื่อกลับมาชำระเงินหนี้กับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทยังคงเก็บดอกเบี้ยจากการชำระล่าช้าอยู่
“อย่างไรก็ตามหากกล่าวถึงแนวโน้มราคายางมะตอยในระยะ 3 ถึง 6 เดือนเป็นอย่างไร บริษัทคงต้องยกตัวอย่างเจาะจงในประเทศ เนื่องจากแต่ละที่มีการจัดสรรงบการเงินไม่เท่ากัน ทั้งนี้ หากเจาะจงเฉพาะในตลาดประเทศไทย มองว่าราคายางมะตอยยังคงปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่องโดยเป็นผลมาจากปัจจัยว่าด้วยราคายางมะตอยจะขึ้นอยู่กับ Demand & Supply ในแต่ละประเทศ
โดยปัจจัยดังกล่าวคิดเป็นเกือบ 80-90% ที่มีผลต่อราคา ที่เหลือจะสัมพันธ์กับความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบโลกบริษัทยังคงเชื่อว่าจะมีเติบโตในไตรมาส 3 ปี 2567 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4 ทั้งนี้ แม้อาจไม่เท่าไตรมาส 3 แต่ยังคงมองว่าความต้องการยางมะตอยจะยังคงมีทิศทางเติบโต ไปจนถึงช่วงไตรมาส 1 ถึง 2 ปี 2568 ” นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย