SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาตัวเลข GDP ไทย Q3 – มาตรการกระตุ้น “เศรษฐกิจ”
บล.กรุงศรี ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาตัวเลข GDP ไทยไตรมาส 3/67 พ่วงติดตามประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟากโบรกแนะสอยหุ้นเด่น CPALL-GULF-INTUCH
“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (18 ต.ค. – 22 พ.ย.67) โดยเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินตลาดหุ้นไทย “ฟื้นตัว” ให้แนวรับที่ 1,427 – 1,415 จุด แนวต้าน 1,456 – 1,468 จุด โดยปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่แนะนำให้นักลงทุนติดตาม คือ
ในวันที่ 18 พ.ย. ติดตามรายงาน GDP ไตรมาส 3/67 โดยมีการคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 0.7% จากไตรมาสก่อนนหน้า ซึ่งไตรมาส 2/67 ขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อนนหน้า ส่วนวันที่ 19 พ.ย. ติดตามการประชุมบอร์ดคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่จะมีผลต่อดัชนี SET Index ได้แก่ วันที่ 19 พ.ย. ติดตามรายงานยอดขอสร้างบ้านใหม่ประจำเดือน ต.ค. คาดการณ์อยู่ที่1.338 ล้านหลัง เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 1.354 ล้านหลัง และติดตามยอดขออนุญาตก่อสร้าง ประจำเดือน ต.ค. โดยตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 1.43 ล้านหลัง เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ถัดมาในวันที่ 21 พ.ย. แนะนำนักลงทุนติดตามรายงานยอดขายบ้านมือสอง ที่คาดการณ์อยู่ที่ 3.88 ล้านหลัง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 3.84 ล้านหลัง
นอกจากนี้ ในวันที่ 22 พ.ย. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯ จาก ม. มิชิแกน ประจำเดือน พ.ย. คาดการณ์อยู่ที่ 72.0 จุด เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 73.0 จุด, และดัชนี Flash PMI ภาค ผลิต พ.ย. ไม่มีคาดการณ์จากตลาด โดยเดือนก่อนอยู่ที่ 48.5 จุด นอกจากนี้แนะนำให้ติดตาม ดัชนี Flash PMI ภาคบริการ ประจำเดือน พ.ย. ซึ่งไม่มีคาดการณ์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ในเดือนก่อนหน้าดัชนีอยู่ที่ 55.0 จุด
ขณะที่ปัจจัยจากประเทศจีนที่ต้องติดตาม คือ วันที่ 20 พ.ย. จะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีอายุ 1 ปี และ 5 ปี คาดการณ์ PBOC คงไว้ที่ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ
ส่วนในฝั่งยุโยปและสหราชอาณาจักร แนะนำนักลงทุนติดตาม วันที่ 19 พ.ย. จะมีการรายงานเงินเฟ้อ ประจำเดือน ต.ค. (ครั้งสุดท้าย) คาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐาน ขยายตัว 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านเงินเฟ้อทั่วไป ขยายตัว 2.7% % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งไตรมาสก่อน ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้าน กลยุทธ์การลงทุน หลังประเมินสัปดาห์หน้า “ฟื้นตัว” คาดการณ์ปัจจัยบวกหลัก คือ แรงขับเคลื่อนภายในจากทิศทางเศรษฐกิจ สะท้อนจากกำไรหุ้น Domestic งวดไตรมาส 3/67 มีทิศทางดี น่าจะสนับสนุนให้ GDP งวดไตรมาส 3/67 ที่จะรายงานจันทร์นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% อาจมี “Positive Surprise”
ขณะที่แรงส่งจากภาครัฐฯ การเร่งเบิกจ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนไตรมาส 4 ขยายตัวเร่งขึ้น ประกอบกับ Dollar Index & US Bond Yield เริ่มติดแนวต้าน 107 จุด และ 4.5% ก่อนคลายลงหนุน SET ทั้งนี้ คาดกาณณ์หุ้นค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ธนาคาร, เช่าซื้อ, สื่อสาร, โรงไฟฟ้า และหุ้นในกลุ่ม Infra Tech ที่คาดการณ์นักลงทุนเร่งสะสมช่วงตลาดตั้งฐานต่อเนื่องโดยมีหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ คือ
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL คาดการณ์ได้รับปัจจัยสนับสนุนจาการประกาศ GDP งวดไตรมาส 3/67 และการออกมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 80 บาท
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, มองแรงกดดัน US Bond Yield และเงินบาทอ่อนมีโอกาสกลับข้าง ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 75 บาท
บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH คาดการณ์มีโอกาสฟื้นตาม GULF และปันผล มากกว่า 6.5% จากการถือหุ้นระยะสั้นๆ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 108 บาท
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้นักลงทุน ติดตามทิศทาง “ฟันด์โฟลว์” ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลออก (หุ้น+พันธบัตร) ภูมิภาค Asia (exJ) -4658 ล้านเหรียญฯ ไทยเงินไหลออก -370 ล้านเหรียญฯ (ขายหุ้น -123 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -247 ล้านเหรียญฯ) เงินบาทอ่อนค่า w-w ที่ 34.8 +/-บาท