CGSI อัพกำไร CPALL ปี 67 ขึ้น 2.3% พ่วงเป้าใหม่ 80 บาท
CPALL แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 ยังเติบโต โบรกปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 67-69 รวมถึงราคาเป้าหมายใหม่ที่ 80 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในไตรมาส 3/67 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ทำกำไรสุทธิได้ 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน ลดลง 10% จากไตรมาสก่อน แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ ซึ่งหลักๆคือกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของ CPAXT และค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการ พบว่า CPALL จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงถึง 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน และ 1% จากไตรมาสก่อน สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ และ Bloomberg consensus ราว 4% และ 9% ตามลำดับ
โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงกว่าคาดการณ์ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและกำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดของ CPAXT ดังนั้นกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปี 67 จึงเพิ่มขึ้นแตะ 1.82 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อน หรือคิดเป็น 76% ของประมาณการทั้งปี
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า ร้าน 7-Eleven ในไทยมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) บวก 3.3% ในไตรมาส 3/67 หนุนโดยยอดซื้อต่อบิลที่เพิ่มขึ้น 2.4% จากปีก่อน และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้านเพิ่มขึ้น 0.5% จากปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ CPALL เปิดร้าน 7-Eleven ในไทยอีก 199 สาขา พร้อมทั้งเปิดสาขาเพิ่มในกัมพูชา 11 สาขาและลาว 3 สาขา จึงทำให้จำนวนสาขาโดยรวมในไทยเพิ่มเป็น 15,053 สาขา, กัมพูชา 98 สาขา และลาว 9 สาขา
ส่วนอัตรากำไรจากการขายสินค้าทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 27.7% ไตรมาส 3/67 ยังเป็นสถิติสูงสุด เนื่องจากสินค้าที่ไม่ใช่อาหารมี GPM เพิ่มขึ้น 20bp จากไตรมาสก่อน เพราะส่วนผสมการขายที่ดีขึ้นช่วยชดเชยอัตรากำไรจากสินค้าอาหารที่ลดลง 10bp จากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล
ขณะที่ GPM โดยรวมจากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น 70bp จากปีก่อน ดังนั้นแม้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อจะมีอัตราส่วน SG&A/รายได้สูงขึ้น 40bp จากปีก่อน และ 20bp จากไตรมาสก่อน เป็น 27.5% จากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้น แต่ไตรมาส 3/67 ธุรกิจนี้ยังคงมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งถึง 30% จากปีก่อน เป็น 4.4 พันล้านบาท คิดเป็น 79% ของกำไรสุทธิโดยรวมของ CPALL
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า CPALL จะยังมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 4/67 แม้อาจชะลอตัวลงจากไตรมาส 3/67 หลังผลดีจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงค่อยๆหมดไป นอกจากนี้ กำไรสุทธิจาก CPAXT น่าจะเติบโตเพียงเล็กน้อย เนื่องจากฐานกำไร ของ Lotus’s ขยายใหญ่ขึ้น
จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 67-69 ขึ้น 1.5-2.3% สะท้อน GPM ที่แข็งแกร่งของร้านสะดวกซื้อ ขณะที่เลื่อนระยะเวลาการลงทุนเป็นสิ้นปี 68 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายของ CPALL เพิ่มเป็น 80 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งและฐานกำไรที่ใหญ่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม CPALL อาจมี downside risk หากมีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและต้นทุนอาหารสดเพิ่มสูงขึ้นส่วนปัจจัยบวกคือการที่บริษัทขยายสาขาในกัมพูชาและสปป.ลาวเร็วกว่าคาดและส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT สูงกว่าคาด เพราะได้ประโยชน์จาก synergy ระหว่าง Makro และ Lotus มากกว่าคาด