BCP:ธุรกิจปี 59 ไปได้ดีราคาหุ้นจูงใจแนะซื้อมีอัพไซด์-Dividend Yield สูง
BCP Valuation จูงใจแนะนำซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E ปี 59 ต่ำเพียง 6.3 เท่า ขณะที่เฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 10 เท่า และยังให้ Dividend Yield สูงกว่า 5% ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้าด้วย ด้านผลประกอบการปี 59 ประมาณการว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 64% เป็น 6.3 พันล้านบาท (EPS : 4.60 บาท/หุ้น)ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 39 บาท/หุ้น
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (5 ก.พ.) ว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP คาดผลประกอบการไตรมาส 4/58อ่อนแอ โดยคาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 534 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 432 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 โดยมาจากการบันทึกด้อยค่าในสินทรัพย์ธุรกิจสำรวจและผลิต (E&P) ราว 800 ล้านบาท (จากเงินลงทุนสุทธิ 4.3 พันล้านบาท) ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับลงมาสะท้อนประเด็นนี้ไปแล้ว ส่วน Core Profit อ่อนลงเพียง 4.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากผลประกอบการโรงกลั่นที่อ่อนลงได้รับการชดเชยจากกำไรที่ดีขึ้นในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจโรงไฟฟ้าโซลาร์
นอกจากนี้ลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่น โดยประกาศเข้าถือหุ้น 100% ใน SunEdison International ญี่ปุ่น ใช้เงินลงทุนราว 2.9 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เพิ่ม 198 MW รวมเป็น 316 MW ภายในปี 2562 ซึ่งเป็นไปตามแผนระยะยาวที่มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500 MW ภายในปี 2563 แต่ส่วนแบ่งกำไรของการลงทุนนี้จะไม่มาก คือ ราว 2% ของกำไรสุทธิในปี 59-60เท่านั้น
Valuation จูงใจ…แนะนำซื้อ ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E ปี 59 ต่ำเพียง 6.3 เท่า ขณะที่เฉลี่ยของกลุ่มอยู่ที่ 10 เท่า และยังให้ Dividend Yield สูงกว่า 5% ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้าด้วย ด้านผลประกอบการปี 59 ประมาณการว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 64% เป็น 6.3 พันล้านบาท (EPS : 4.60 บาท/หุ้น) ทาง DBSV ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 39 บาท/หุ้น (เป็นมูลค่าของธุรกิจโรงกลั่น 30 บาท/หุ้น และเป็นของธุรกิจโซลาร์ 9 บาท/หุ้น) ความเสี่ยงหลัก คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันดและค่าการกลั่น (GRM) และการปิดซ่อมนอกแผน