ผ่าน 1,488 ได้ไหม?

จริง ๆ “โมนิก้า” อยากจั่วหัวออกไปในแนวลุยสุดซอยไปเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เดี๊ยนต้องกลับมามองความจริงที่ว่า...


จริง ๆ “โมนิก้า” อยากจั่วหัวออกไปในแนวลุยสุดซอยไปเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เดี๊ยนต้องกลับมามองความจริงที่ว่า ครั้งแรกที่ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,500 จุดขึ้นไปทำไฮไว้ที่ระดับ 1,506 จุดนั้น มันตามมาด้วยแรงขายที่ออกมาต่อเนื่อง จนดัชนีลงไปทำโลว์ที่ระดับ 1,443 จุด ต่อจากนั้นก็เด้งขึ้นมาใหม่ที่ระดับ 1,488 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมาทำโลว์ใหม่ที่ระดับ 1,436 จุดจำกันได้ไหมจ๊ะ

การเคลื่อนตัวดังกล่าวทำให้เดี๊ยนรู้สึกเอะใจอย่างมาก เพราะจุดสูงสุดของการวิ่งกลับขึ้นไปใหม่ต่ำลงเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันจะเห็นว่า จุดต่ำสุดของการลงใน 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็มีจุดต่ำใหม่เกิดขึ้นอีกด้วย “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า การพุ่งขึ้นไปถึง 1,471.48 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,460.11 จุด บวกไป 7.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.60 หมื่นล้านบาท มีอะไรแตกต่างไปจากครั้งก่อนขนาดไหน? เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้มันเป็นเพียงแค่การเล่นรอบธรรมดาน่ะซี

โดยประเด็นที่ทำให้มีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก (กองทุนสวมบทป๋าดัน) ล้วนมาจากตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ปี 67 ของไทย ขยายตัว 3% ซึ่งเป็นการเร่งตัวขึ้นจาก 2.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ 9 เดือนแรกเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3% ซึ่งเป็นตัวบิ้วอารมณ์นักลงทุนได้เป็นอย่างดี เพราะแสดงให้เห็นว่า เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกำลังหมุนอย่างมีนัยสำคัญนะตัวเอง

ประกอบกับรัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงของการอัดโปรโมชันส่งท้ายปีเก่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่อง (ไตรมาส 3 แจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง ไตรมาส 4 แจกเงินหมื่นคนอายุ 60) จึงเชื่อได้ว่า ผลประกอบการงวดนี้จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินความพร้อมที่จะโหนกระแสมีมากขนาดไหน? เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้มีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาช่วยหนุนอีกครั้งเจ้าค่ะ

ขนาดหุ้นลูกอ๊อด AOT เคยมีอาการอ่อนแรงเป็นเดือน แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมากลับเด้งสู้อย่างแข็งแกร่ง จนราคาหุ้นสามารถสลัดโลว์ที่ระดับ 58.25 บาท ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 61.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูแบบไม่มีข้อสงสัย เพราะมีข่าวดีเรื่องไฮซีซั่น บวกกับนักลงทุนสถาบันได้เวลาเก็บหุ้นรอบใหม่ ส่งผลให้ไฮเดิมที่ระดับ 65 บาทไม่ใช่เรื่องยากจ้า!

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงน้องมิ้น MINT เป็นรายถัดมา เพราะเนื้อเรื่องที่เป็นตัวบิ้วอารมณ์เหมือนกับรายแรกทุกประการ แต่ที่เดี๊ยนสนใจมากเป็นพิเศษอยู่ตรงราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ให้ไว้อยู่แถว 38 บาท ขณะที่วานนี้ราคาหุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 27 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 963 ล้านบาทแบบนี้ มันมีอัพไซด์เพียบเลยนะคุณพี่

ส่วนม้านอกสายตาที่ไปได้เรื่อย ๆ และยังเป็นหุ้นที่เดี๊ยนชอบพูดถึงบ่อย ๆ ก็คือ INSET ซึ่งเป็นบริษัทต้น ๆ ของประเทศไทยที่รับงานสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ “โมนิก้า” เลยไม่มีข้อแม้เมื่อเห็นราคาหุ้นแกว่งตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เพราะปีหน้าทุกคนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 3.52 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 245 ล้านบาท น่าสนใจอย่างแร๊ง..ไม่เชื่อลองถาม “พี่บอล” ก็ได้ค่ะ

อีกรายที่ตีคู่กันมากับรายข้างต้น “โมนิก้า” ขอให้จับตาดูหุ้น PROEN ภายใต้การบริหารงานของ “พี่เอ้” แบบใกล้ชิด เพราะเมื่อดูจากการจับมือร่วมทุนกับ “เอจเน็กซ์” ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากดูไบเพื่อลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่า 3.20 หมื่นล้าน ก็เป็นช็อตที่น่าคิดเหมือนกันว่า ปีนี้จะโตกระหึ่มขนาดไหน? และการขึ้นมาทำไฮในรอบ 1 ปี 5 เดือน ด้วยการยืนปิดที่ระดับ4.68 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 276 ล้านบาท ไม่ธรรมดานะจะบอกให้

ตบท้ายกันที่หุ้นโรงพยาบาล THG กันสักหน่อย เพราะอาการเด้งดึ๋งขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.70 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 11.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 153 ล้านบาท เหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่า จัดการปัญหาหลังบ้านเสร็จแล้ว! จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นระลอก แต่เผอิญตัวอีฉันเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวมันคาบเกี่ยวกับไตรมาส 4  จึงไม่อยากออกตัวแรงตามกระแส เพราะกลัวหน้าแหกเหมือนกัน เลยพูดได้แค่ว่า ใครอยากเล่น..ก็ต้องรับความเสี่ยงกันเอาเองนะจ๊ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button