“ดีอี” เร่งปิดกั้น “เพจปลอม” อ้างเป็นหน่วยงานรัฐ หลอกลวงเงิน-ข้อมูลส่วนตัว
“ดีอี” เร่งปิดกั้น “เพจปลอม” อ้างเป็นหน่วยงานรัฐ เปิดช่วยเหลือเหยื่อคดีออนไลน์ หวังหลอกลวงเอาเงิน-ข้อมูลส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินเฝ้าระวัง ตรวจสอบภัยออนไลน์ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างเข้มข้น ของกระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำให้ขณะนี้มิจฉาชีพได้เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการใช้ เพจ/URL ปลอม โดยอ้างอิงหน่วยงานรัฐ เปิดรับให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีออนไลน์ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ
.
“ปัจจุบันพบว่ามิจฉาชีพได้เปลี่ยนรูปแบบวิธีการหลอกลวงให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โดยเปิดเพจปลอม และนำเอารูปของผม หรือรูปของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามภัยออนไลน์มาใช้อ้างอิง เพื่อหลอกลวงประชาชน เช่น เพจกองทุนเพื่อเข้าถึงความยุติธรรม ฯลฯ ซึ่งกระทรวงดีอี ได้ประสานผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดำเนินการปิดกั้นเพจปลอมดังกล่าวไปแล้ว เพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ พร้อมกันนี้กระทรวงดีอี จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพราะถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงดีอี ยังได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) บูรณาการความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการใช้ช่องทางออนไลน์กระทำความผิด โดย ยธ.พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการฟ้องคดี เรียกร้องค่าเสียหาย ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี ยังได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อเพิ่มบทลงโทษให้กับผู้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าว รวมไปถึงการประสานงานกับผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย ในการกำหนดเงื่อนไขการซื้อโฆษณาที่จะต้องมีการตรวจสอบเนื้อหาของโฆษณา และการยืนยันตัวตนก่อนการซื้อโฆษณาในโซเชียลมีเดียทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนสังเกตุเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าด้านหลังชื่อบัญชีเพจของหน่วยงาน ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเป็นเพจทางการของหน่วยงานที่ได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว ไม่ใช่มิจฉาชีพ และขออย่าหลงเชื่อ เพจ/URL ที่น่าสงสัย ซึ่งถูกส่งต่อๆกันจากบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าไว้วางใจ หรือกดลิงก์แพลตฟอร์มต้องสงสัยภายในโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมาย เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือหากมีการแชร์ต่อๆกัน อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างได้