“ชัยยศ” แนะลงทุน 2 หุ้น “ค้าปลีก” รับแจกเงินหมื่น กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้น

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยฝ่ายผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (20 พ.ย.67) ว่าแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในช่วงพักฐาน รอติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัยยังคอยกดดันอยู่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียที่อ่อนตัวลง จากความกังวลสถานการณ์สงครามดังกล่าว

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศรอจับตาวันศุกร์นี้ ตลาดไทยน่าจะผ่อนคลายลง หลังจากเมื่อวานอัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อลงมติว่าจะรับหรือไม่คำร้องคดีดังกล่าวไว้วินิจฉัยในวันที่ 22 พ.ย.นี้

โดยนักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนในประเทศพร้อมที่จะเข้าซื้อ ทั้งเรื่องกองทุนวายุภักษ์ และกองทุน THAI ESG ที่ยังรอ แต่ฟากนักลงทุนต่างชาติยังไม่พร้อม จึงทำให้นักลงทุนในประเทศ ยังคงกล้าๆ กลัวๆ แต่ทางบล.กรุงศรี มองว่าภาพรวม SET Index อัพตัวเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากตามปกติ SET Index จะล้อไปกับค่า GDP ที่เพิ่งประกาศไตรมาส 3/67 เติบโต 3% สะท้อนตลาดหุ้นไทยจะดีตามไปด้วย

นอกจากนี้ ประเมินไตรมาส 4/67 ค่า GDP ยังมีโอกาสที่จะขยับตัวขึ้นต่อ จากปัจจัยเรื่องช่วงไฮซีซั่น, เงินดิจิทัล เฟสแรก และ เม็ดเงินการลงทุนเข้ามาหนุน

ทั้งนี้ มองว่า SET Index พักฐาน ให้แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักวิเคราะห์ประเมินว่า หลังรัฐบาล อนุมัติ “ดิจิทัล เฟส 2” กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปในช่วงตรุษจีน จึงอยากให้นักลงทุนเน้นเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีกเป็นหลัก เป็นเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภคกำลังคึกคัก แนะนำ 2 หุ้นเด่นคือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 80 บาท และ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 30 บาท

ขณะเดียวหุ้นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง คือกลุ่มส่งออก หากในช่วงปีใหม่นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นทางการ ต้องรอดูจะมีมาตรการอะไรออกมา และสินค้าประเภทไหนจะรับผลกระทบ รวมถึงหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจมีผลกระทบในบางตัว