“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ ผิดหวังผลประกอบการ Nvidia
“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดลบ ลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (21 พ.ย.67) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2568
โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงหลังจากเปิดตลาดทรงตัวในเช้าวันนี้โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการซื้อขาย 15 นาทีแรกหลังเปิดตลาด ดัชนีนิกเกอิลดลง 248.33 จุด หรือ -0.65% สู่ระดับ 38,104.01 จุด หลังจากเปิดตลาดที่ระดับ 38,352.87 จุด ขยับขึ้น 0.53 จุด หรือ +0.001% โดยหุ้นลบนำตลาดเช้านี้ได้แก่กลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ด้านดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลบในวันนี้ (21 พ.ย.) เนื่องจากถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 19,646.04 จุด ลดลง 58.97 จุด หรือ -0.30%
ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดลบในวันนี้ (21 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ระดับ 3,362.94 จุด ลดลง 5.05 จุด หรือ -0.15%
โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี เอาไว้ที่ระดับ 3.1% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.6%
สำหรับอินวิเดียเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2568 อยู่ที่ 81 เซนต์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ 75 เซนต์ และรายได้โดยรวมอยู่ที่ 3.508 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.316 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นอินวิเดียร่วงลง 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากรายได้รวมของอินวิเดียในไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้น 94% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากสามไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีการขยายตัวสูงถึง 122%, 262% และ 265% ตามลำดับ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาหุ้นของบริษัทอินเดียที่มีความเกี่ยวข้องกับโกตัม อาดานี ประธานบริษัท อาดานี กรุ๊ป (Adani Group) หลังจากอาดานีและเจ้าหน้าที่รายอื่น ๆ ของบริษัทถูกยื่นฟ้องที่ศาลรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ ในข้อหาติดสินบนและฉ้อโกง