AOT เรียกคืนพื้นที่ “ดิวตี้ฟรี” สุวรรณภูมิ ขยายอาคารผู้โดยสาร หนุนรายได้บริการเพิ่ม
AOT เรียกคืนพื้นที่ “คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี” หวังสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารในสุวรรณภูมิ หนุนรายได้บริการผู้โดยสารเพิ่ม
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จะดำเนินโครงการก่อสร้างอาคาร ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยจะมีพื้นที่ ก่อสร้างบางส่วนอยู่บริเวณสวนหย่อมภายนอกอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออก (Food Stop (City Garden เดิม)) ชั้น 2 ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวบางส่วน บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการบริหาร จัดการพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าย่อย หรือบริการต่างๆ โดยมีอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563-31 มีนาคม 2576 นั้น
ด้วยเหตุดังกล่าว ทอท.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ บางส่วนบริเวณดังกล่าวจาก KPS โดย ทอท.ได้มีหนังสือแจ้ง และ KPS ได้ส่งมอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวคืนให้แก่ ทอท. ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ KPS มีความประสงค์ขอให้ ทอท.จัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร ภายในประเทศซึ่งมีขนาดพื้นที่เท่ากับขนาดพื้นที่ Food Stop เดิมให้กับ KPS เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายอาหารและ เครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทอท.ไม่สามารถจัดสรรพื้นที่ที่มีขนาดเท่ากับพื้นที่ที่ ทอท.ขอคืนให้กับ KPS เพื่อเป็นการทดแทนได้ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีพื้นที่เหลือที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 14/2567 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่ ประกอบกิจการฯ ของ KPS ณ ทสภ. จำนวนรวมประมาณ 1,257.560 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4.97 ของพื้นที่ ประกอบกิจการทั้งหมดของ KPS ณ ทสภ. (จำนวน 25,307.260 ตารางเมตร) โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อให้ ทอท.นำมาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ณ ทสภ. ซึ่งการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ดังกล่าว ทอท.จะต้องคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีสัญญาที่ 2 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ที่ KPS ได้ชำระให้แก่ ทอท.ไว้แล้วให้แก่ KPS ตามจำนวนพื้นที่ประกอบกิจการฯ ที่ลดลง นับตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา เป็นจำนวนเงินประมาณ 193.08 ล้านบาท
โดย KPS ตกลงที่จะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายใด ๆ จากการที่ ทอท.ชำระคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าว ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ จาก KPS ดังกล่าว จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ประกอบกิจการฯ ภายใน อาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 591,000 บาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ
สำหรับรายเดือนภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ทสภ. ในช่วงปีสัญญาที่ 3 (1 เมษายน 2567-31 มีนาคม 2568) ลดลงเป็นจำนวน เงินเดือนละประมาณ 23.46 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.ได้รับรู้รายการดังกล่าวไว้ในงบการเงินประจำปี 2567 เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทอท.คาดว่า เมื่อโครงการก่อสร้าง East Expansion แล้วเสร็จ จะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก การให้บริการผู้โดยสาร และการอนุญาตให้ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป