แนวโน้ม SET เช้าไซด์เวย์ ลุ้นศาลรธน.รับ-ไม่รับคำร้องคดี “ทักษิณ” ล้มล้างการปกครอง
แนวโน้ม SET เช้าแกว่งไซด์เวย์ รอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศวันนี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร คดีล้มล้างการปกครอง โดยให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,430 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ แต่มีโอกาสที่แกว่งไซด์เวย์อัพได้ หลังเมื่อวานปรับตัวลงมาแรง และภาพของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าวันนี้ที่เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นมา ตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคีนที่ปิดบวก
อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามทิศทางของหุ้น DELTA ต่อว่าจะเป็นอย่างไร ในการที่เข้าเกณฑ์ Cash Balance เป็นวันที่ 2 เพราะมีผลต่อทิศทางของดัชนี แต่มองว่าเม็ดเงินลงทุนที่ไหลออกจาก DELTA จะเข้าไปในหุ้นใหญ่กลุ่มอื่น ๆ แทน ซึ่งจะเห็นได้จากเมื่อวานนี้มีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวปรับตัวขึ้นได้สวนทางดัชนี
นอกจากนี้ยังรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศวันนี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย คดีล้มล้างการปกครอง โดยให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,430 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Up โดยบรรยากาศการลงทุนเอเชียเช้านี้ดีดขึ้นเล็กน้อยฟื้นตัวได้จากที่ปรับลงวานนี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีผลกับดัชนียังอยู่ที่ DELTA ว่าจะปรับตัวลงต่อเนื่องหรือไม่ โดยสถิติที่ติด Cash Balance 2 ครั้งในปี 66 ราคาหุ้นปรับลง 40% กินระยะเวลา 4 สัปดาห์และ 26% กินระยะเวลา 2 สัปดาห์ตามลำดับ
โดยหากอ้างอิงการพักตัวราว 30% จากระดับ High รอบนี้มีโอกาสที่ DELTA อาจลงได้ถึงแนวรับหลัก 120 บาท ซึ่งจะกดดันดัชนีต่อ อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกต่อ SET Index ในภาพรวมจากเม็ดเงินที่เกิดการ Rebalance และไหลเข้าหาหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับหรือไม่รับกับคำร้องประเด็นคุณทักษิณ-พรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง กรณีรับคำร้องอาจเป็น Noise กดดันระยะสั้น แต่หากไม่รับคำร้อง ทางฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกอ่อนๆ เชิง Sentiment ระยะสั้นคาดดัชนีจะยังอยู่ในช่วงแกว่งพักตัวสร้างฐาน แต่ระยะกลาง-ยาว ยังให้น้ำหนักทางบวกทั้งจากโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวในไตรมาส 4/67 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการทองเที่ยว
รวมถึงปี 68 ที่มองภาคการลงทุนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต นอกจากนี้ยังมี Upside หากกนง.ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วน Downside คาดว่ายังถูกจำกัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1