CPF รวมพลังบุคลากรขน “นวัตกรรม” สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร CPF เปิดเผยว่า ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เทรนด์ของผู้บริโภคปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ฉะนั้น บริษัทฯ ต้องไม่หยุดนิ่ง ในการคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ดังนั้นบริษัทจึงกำหนดให้ “การสร้างสรรค์สิ่งใหม่” เป็นหนึ่งในค่านิยมขององค์กรแบบซีพีเอฟเวย์ ในแต่ละปี เวที “CPF CEO Awards” จะมีเหล่าบุคลากรทั้งในและต่างประเทศต่างส่งผลงานนวัตกรรมเข้าร่วมประกวดหลายพันชิ้น ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้จะจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แต่บุคลากรทุกสายธุรกิจต่างร่วมแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านผลงานทั้งสิ้น 4,248 ชิ้น งานนี้ถือเป็นเวทีกลางในการรวมพลังเหล่านวัตกรทั้งองค์กร เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและสิ่งใหม่ ๆ ระหว่างกัน

 

“ผมมองว่านวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับองค์กร  การที่บริษัทจะสร้างความแตกต่างทางธุรกิจเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับโลกนั้น  จำเป็นต้องศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคต่อเนื่อง และจะต้องมีการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในตลาดโลก เนื่องจากเทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น หากเราหยุดอยู่กับที่เราอาจจะเสียโอกาสสำคัญๆไป ซีพีเอฟยังมีโอกาสสร้างการเติบโตจากธุรกิจอาหาร (Food) อีกมาก

ดังนั้นหากมีการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมต่อเนื่อง เราจะสามารถสร้างแบรนด์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าได้มากขึ้น เนื่องจากวันนี้ซีพีเอฟ มีความแข็งแกร่งในธุรกิจต้นน้ำ(อาหารสัตว์) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเราหาโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจปลายน้ำ(อาหารแปรรูป) ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทในระยะยาว” นายอดิเรก กล่าว

 

 

สำหรับงานครั้งนี้เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในหน่วยงานของซีพีเอฟซึ่งมีบุคลากรถึง 100,000 คน ที่ผลิตอาหารปลอดภัยไปสู่ตลาดโลก และนวัตกรรมที่เหล่านวัตกรคิดค้นนี้ไม่เพียงแต่ใช้ในประเทศไทย แต่ยังนำไปใช้ในอีก 13 ประเทศที่ซีพีเอฟเข้าไปลงทุน โดยเชื่อมั่นว่าการที่ซีพีเอฟสามารถผลิตสินค้าได้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มาจากการคิดค้นนวัตกรรม ทั้งอาหารสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ที่ล้วนแล้วแต่อาศัยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งสิ้น

อนึ่ง CPF CEO Awards 2015 มีผลงานที่ยอดเยี่ยมได้รับรางวัลทั้งสิ้น 18 ผลงาน ประกอบด้วย รางวัลระดับ i1 การรักษาสภาพ จำนวน 8 รางวัล, รางวัลระดับ i2 การปรับปรุงงาน จำนวน 7 รางวัล และรางวัลระดับ i3 นวัตกรรม จำนวน 3 รางวัล

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 700,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากตลาดต่างประเทศ 65% และในประเทศ 35% ซึ่งการเข้าไปลงทุนหรือดำเนินธุรกิจในต่างแดนของบริษัทฯ คงยึดหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ คือ ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และ บริษัท โดยพร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพอาหารปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ ครอบคลุมประชากรกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก