GULF ราคาเป้าหมายใหม่
ผลพวงจากการพบปะระหว่างนักวิเคราะห์และผู้บริหาร GULF ได้กลายเป็นบทวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทที่ราคาปรับขึ้นมาเป็น 69 บาท จากเดิม 68 บาท
ผลพวงจากการพบปะระหว่างนักวิเคราะห์และผู้บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้กลายเป็นบทวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทที่ราคาปรับขึ้นมาเป็น 69 บาท จากราคาเป้าหมายเดิม 68 บาท ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ
1.การรวมหุ้นระหว่างหุ้น GULF กับ หุ้น INTUCH ในลักษณะ amalgamation ซึ่งเป็นวิศวกรรมการเงินแบบหนึ่ง โดยถอดทั้ง GULF และ INTUCH ออกจากตลาด เพื่อจดทะเบียนเป็นบริษัทใหม่ซึ่งคาดว่าเริ่มต้นในปี 2568
2.การตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขนาด 50 เมกกะวัตต์ของ INTUCH จะทำให้บริษัทใหม่มีรายได้ประจำที่แน่นอนเพิ่มขึ้นอันมาจากบริษัทลูกคือเอไอเอสที่เป็นเครือข่ายมือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
3.การตั้งโรงไฟฟ้าของ GULF ในสปป.ลาวและในประเทศเพิ่มขึ้นอีก หลายแห่ง ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น
ด้วยสามเหตุผลนี้นักวิเคราะห์คาดหมายในเชิงบวกว่าอนาคตของบริษัทนี้จะแข็งแรงกว่าเดิมอีกมากหลังจากที่ปีนี้ทั้งรายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นเกิน 20%
และบริษัท GULF ELEXTRIC หรือกัลฟ์ก็กลายเป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในตลาดหุ้นไทย กลายเป็นหุ้นขาขึ้นในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะขาลงหรือขาขึ้น เรียกว่าเป็นหุ้น The Share of all season ด้วยสาเหตุที่อนาคตระยะสั้นและระยะยาวมีแต่ทางบวกจากการที่บริษัททำธุรกิจไฟฟ้าและบริษัทลูกอย่าง INTUCH ที่มีเครือข่ายทำธุรกิจโทรคมนาคมและไอทีมาบรรจบกันพอดี
สำหรับธุรกิจไฟฟ้านั้นการได้สัญญาระยะยาว (PDP) สร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลาวทำให้อนาคตของบริษัทเจริญรุ่งเรืองในขณะที่ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังจะมาแรงในอนาคตจะทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจากผลผลิตของบริษัทมีมากขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด
ราคาเป้าหมายของ GULF ในปีนี้ที่เดิมตั้งไว้ที่ 68 บาท เป็นเพียงราคาเริ่มต้นของก้าวต่อไป การที่ราคาหุ้นของ GULF บวกสวนตลาดที่กำลังอ่อนไหวไปในทางลบ จึงทำให้หุ้น GULF เปลี่ยนสถานะเป็นหุ้นที่แบกตลาดไปโดยปริยาย
สถานะของหุ้น GULF จากนี้ไปจึงเป็นพญาอินทรีที่บินเหนือท้องฟ้าอย่างสง่างาม การที่ราคาหุ้นของ GULF บวก เนื่องจากคาดการณ์ว่า จะได้ประโยชน์จาก PDP ฉบับใหม่จากดีลเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลาวทำให้หุ้นเป็นขาขึ้น
ข้อดีของ PDP ในลาวอยู่ที่ GULF จะต้องหาแหล่งเงินกู้ให้กับพาร์ตเนอร์ที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลสปป.ลาว โดยที่ GULF ไม่ต้องรับผิดชอบภาระเงินกู้ดังกล่าว
แต่กุญแจสำคัญคือ GULF จะได้เป็นเจ้าของกระแสไฟฟ้าเพื่อมาป้อนดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นธุรกิจใหญ่จากการที่ไทยจะได้เป็นฮับทางด้านโทรคมนาคมของอาเซียนโดยมีผู้เล่นรายใหญ่คือ ADVANC ซึ่งเป็นบริษัทสาขาในเครือ INTUCH และเป็นบริษัทลูกของ GULF จึงคาดว่าธุรกิจนี้จะทำกำไรมหาศาลอย่างยั่งยืนให้กับ GULF ทั้งโดยตรงและอ้อม
ด้วยเหตุนี้ทำให้มุมมองของนักวิเคราะห์ต่ออนาคตของหุ้นไฟฟ้ารายนี้จึงมีส่วนทำให้หุ้น GULF โดดเด่นขึ้นมาในสายตา เพราะร่าง PDP ใหม่ที่ซ่อนอยู่ถ้าดูในรายละเอียดจะพบว่ามีแผนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (จากเขื่อนในลาว) 1.4 GW ที่จะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (COD) ในปี 2035 (พ.ศ. 2578) ซึ่งปกติจะใช้เวลาสร้างราว 10 ปี จึงคาดว่าจะต้องเห็นเอกสารยินยอมให้สร้างเขื่อน (PPA) ในปี 68-69 นี้แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการต้องไปเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลลาวเพื่อนำมาเข้าในโควตาขายไฟฟ้า
นอกจากนี้ GULF ยังมีโอกาสในโครงการกลุ่มพลังงานทดแทนอื่น ๆ อีก จากการเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนที่คาดว่าจะมีการจัดสรร PPA ในไตรมาส 4/67 ราว 3.6 GW และยังมี Upside จากดีมานด์การใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าร่าง PDP ประเมินไว้ที่เติบโตเพียง 3-4% เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขจริงที่เกิดขึ้นในเดือนพ.ค. 67 พุ่งไป 8% แล้ว และในประเทศไทยยังมีการเร่งขยายธุรกิจ Data Center ที่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งวันเข้ามาหนุนอีก
ราคาประเมินที่ 69.00 บาท อาจจะดูเว่อร์วังเกินไปสักนิดแต่อย่างน้อยที่สุดก็สะท้อนว่า อนาคตของหุ้นนี้สดใสแน่นอน
วิษณุ โชลิตกุล