ฉาวไม่แผ่ว

ไม่น่าเชื่อว่า ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีเรื่องฉาวไม่แผ่วเลยจริง ๆ ซึ่งมีทั้งเรื่องฉ้อโกง เรื่องเบี้ยวหนี้ หรือแม้กระทั่งเรื่องปั่นหุ้นตระกูลดัง


ไม่น่าเชื่อว่า ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีเรื่องฉาวไม่แผ่วเลยจริง ๆ ซึ่งมีทั้งเรื่องฉ้อโกง เรื่องเบี้ยวหนี้ หรือแม้กระทั่งเรื่องปั่นหุ้นตระกูลดัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” แทบจะอกแตกตายคาหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะไม่นึกไม่ฝันตลาดหุ้นไทยจะเหลวเป๋วได้ขนาดนี้ จนเริ่มมีเสียงบ่นจากแมงเม่าดังออกมาเป็นระลอกในทำนอง “หวยจะออกที่ใครอีก” เจ้าคะ

ด้วยเหตุนี้อย่าแปลกใจที่เห็นดัชนีทรุดตัวลงมาเรื่อย ๆ เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อให้เม่าลุยสุดซอย แถมเม็ดเงินจากกองทุนก็เข้ามาแค่หุ้นบางตัว รวมทั้งการขึ้นลงของตลาดหุ้นไทยก็ขึ้นอยู่กับหุ้นเพียงตัวเดียว ขณะที่เรื่องการเมืองก็ส่อไปในทางห่วยแตกมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจนป่านนี้ยังไม่อัดแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และทำให้เม็ดเงินสะพัดขึ้นแบบนี้..มันจะไปต่ออย่างไรล่ะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นที่กล่าวถึงทั้งหมดล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนมองว่า การที่ดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,430.40 จุด ลบไป 7.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.67 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่เมคเซ้นส์สุด ๆ เพราะถ้ามองตัวเลขส่งออกในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 14% โดยเนื้อในเป็นการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี และคอมพิวเตอร์เป็นหลัก จึงตีความได้ว่า ธุรกิจประเภทอื่นยังไม่ฟื้นใช่อ๊ะป่าว?

เมื่อข้อมูลโน้มเอียงมาทางลุ่ม ๆ ดอน ๆ เป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” จึงเข้าใจเหตุผลที่นักลงทุนบางกลุ่มชะลอลงทุน และเลือกใช้วิธ๊ยืนดูแบบห่าง ๆ เพราะมันมีเรื่องราวที่ทำให้ไม่สบายใจเยอะแยะไปหมด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเด็นฉาวที่เกี่ยวข้องกับตระกูล “ตั้งคาราวคุณ” โผล่ขึ้นมาแบบนี้ มันกระเทือนกับความน่าเชื่อของตลาดหุ้นไทยเต็ม ๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่า นี่คือเจ้าของ TOA นะนายจ๋า!

ประกอบกับก่อนหน้านี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นลูกชายคนโต เพิ่งโดนตำรวจจับเข้าซังเตไปไม่ทันไร มาคราวนี้เป็นคิวของแม่เข้ามาพัวพันกับเรื่องปั่นหุ้นอีกดอกแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของตระกูลนี้ดูไม่ดีเอามาก ๆ เพราะยังมีฝั่งของ DPAINT (แม่เจ้าของบริษัท) ซึ่งเกี่ยวดองในฐานะเครือญาติ ก็โดนข้อหาเดียวกันแบบจัดเต็ม และยังมีเพื่อนร่วมแก๊งค์อีก 20 กว่าคนร่วมขบวนการ..ช็อกซีนิม่าสิคะ

ก่อนจะเกิดเรื่องฉาวข้างต้น ก็มีเรื่องหุ้นกู้ SABUY ที่ส่อผิดนัดชำระหนี้ปะทุขึ้นมาเป็นระลอก จนสุดท้ายก็ไม่มีปัญญาชำระหนี้ พร้อมกับมีการยิงคำถามตรงไปถึงซีอีโอหนุ่มไฟแรงจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเมื่อนับเงินกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา ก็ไม่มีพอที่จะใช้หนี้จริง ๆ ส่งผลให้พวกขาเผือกพูดไปในทางเดียวกันว่า บริษัทล้มอีกแล้วแน่ ๆ และคนถือหุ้นกู้ก็เจ็บตัวอีกแล้วค่ะนายท่าน!

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น THG อีกรอบ เพราะการทะยานขึ้นของหุ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเหมือนบอกให้รู้ว่า ปัญหาทุกอย่างเคลียร์แล้ว! และต่อจากนี้ขอเดินหน้าด้วยทีมงานชุดใหญ่เต็มตัว เพราะเรื่องฉ้อโกงของ “หมอสิ้นบุญ” เป็นเรื่องของส่วนบุคคล บริษัทไม่ส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ต้องแบกรับอะไรทั้งนั้น ก็เป็นการยืนยันกลาย ๆ ว่า คนที่ได้รับความเสียหายต้องไปไล่บี้เอาเงินคืนจากหมอเฒ่าเจ้าเล่ห์กันเอาเองนะจ๊ะ

เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องกล่าวคำขอบคุณ ตลท. ที่ออกมาให้ความกระจ่างเรื่อง “ตึ๊งหุ้น” กับบทบาทของ “TSD” ซึ่งอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะท่อนที่ “รองรักษ์” พูดถึงกระบวนการที่ถูกต้อง ควรทำผ่านหน่วยงานศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพราะสามารถสอบทานข้อมูลได้อย่างแม่นยำ อีฉันเลยรู้ได้ทันทีว่า โบรกเกอร์ต้องมีนอกมีในแน่ ๆ และงานนี้ต้องโดนตรวจภายในทุกขุมขนแน่นอน..แค่คิดก็ขนลุกแล้วค่ะ

งานนี้โบรกฯ ที่โดนหมายหัวเป็นลำดับหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น บล.คิงส์ฟอร์ด เพราะดันไปเกี่ยวข้องกับปัญหาฉ้อโกงเต็มประตูหน้าต่าง “โมนิก้า” ถึงมีอาการขนลุกตลอดเวลา เพราะลองแตะลงตรงส่วนไหน ก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหาไปหมด และเหนืออื่นใดก็คือ ตอนนี้เดี๊ยนแทบไม่มีเวลาลงไปเจาะในแต่ละเรื่องให้ลึกลงไปอีก เพราะดันมีเรื่องฉาวใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด..พูดแล้วมันเหนื่อยใจจริง ๆ เจ้าค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button