JMT โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 21.60 บาท ลุ้นกำไรปี 67-69 โตเฉลี่ย 10% รับตั้งสำรองลด
JMT โบรกชี้กำไรปี 67-69 โตเฉลี่ย 10% รับค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง จากการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น พร้อมวางแผนซื้อหนี้เพิ่ม 2-3 พันล้านบาท โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.60 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/67 ของ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT จะเป็นช่วงสูงสุดของปี 67 ประเมินกำไรสุทธิที่ 1.66 พันล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนชะลอตัวลงจากการเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้ราว 500 ล้านบาท ในช่วงเดือน มิ.ย. เป็นต้นมา เพื่อลดค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองในระยะยาว
อีกทั้งค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และCash collection ที่ชะลอตัว ส่วนหนึ่งมาจากการปรับเกณฑ์การขายหนี้ด้อยคุณภาพของ รปท. ที่ทำให้สถาบันทางการเงินขาย NPL และ NPA ได้น้อยลง เนื่องจากต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งก่อนจะเป็นหนี้เสีย และหลังจากเป็นหนี้เสีย ก่อนที่จะขายหนี้ออกมาได้จึงใช้เวลาที่นานและมีปริมาณหนี้ที่นำมาขายสู่ตลาดลดลง
สำหรับแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยแบบ CAGR ของกำไรสุทธิในปี 67-69 คิดเป็น 10% โดยผลประกอบการจะเติบโตโดดเด่นในปี 68 ที่ประเมินกำไรสุทธิราว 2.05 พันล้านบาท ลดลง 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคาดหวังการจัดตั้ง AMC กับพาร์ทเนอร์สถาบันการเงินอีกแห่ง หนุนส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นขึ้นจากเดิมที่มีเพียง JK AMC
รวมถึงแนวโน้มค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง จากการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น โดยวางแผนซื้อหนี้เพิ่ม 2-3 พันล้านบาท อีกทั้งได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ภายใต้บรรยากาศการปรับลดดอกเบี้ยของ รปท. อย่างบ่อย 1-2 ครั้งในปี 68 หนุนรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจขยายตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 21.60 บาท