ตลท. ชูโมเดล 3 ปี ผ่านโครงการ “flagship” หนุนลงทุน – สร้างโอกาสเท่าเทียม

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดกลยุทธ์ 3 ปี (68-70) ผ่านแนวคิด “เพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม” ขับเคลื่อนตลาดทุนผ่าน 3 โครงการ flagship ได้แก่ Jump+ สนุน Value การเติบโต บจ., Bond Connect Platform เพิ่มโอกาสผู้ลงทุนบุคคลทั่วไปให้เข้าถึงพันธบัตรรัฐบาล และสร้างระบบนิเวศคาร์บอนผ่าน “Carbon Market Platform” ตอบโจทย์การเติบโตยั่งยืน


นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2568-2570) ภายใต้แนวคิด “เพื่อส่วนรวมและความเท่าเทียม” (Fair & Inclusive Growth) มุ่งสร้างความแข็งแกร่งเข้าถึงได้ง่ายและสร้างประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน พร้อมปรับตัวท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและตลาดทุนโลก ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

  1. มุ่งมั่นเพื่อโอกาสการเติบโต (Enable Growth Ambitiously) ผ่านการเพิ่มความน่าสนใจด้านบริษัทจดทะเบียน

โดยริเริ่มโครงการ Jump+” เพื่อสร้างการเติบโตให้กับตลาดทุนไทย โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียน โดยเน้นบริษัทที่มีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าของบริษัท โดยบริษัทจดทะเบียนสามารถเข้าร่วมตามความสมัครใจ ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้เกิดพัฒนาการด้านการดำเนินงาน การขับเคลื่อนความยั่งยืนตามหลัก ESG การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริการให้คำปรึกษา และเพิ่มช่องทางสื่อสารกับผู้ลงทุนเพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และการรับรู้ให้แก่ผู้ลงทุน รวมทั้งสิทธิประโยชน์จากทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานพันธมิตร

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเตรียมพัฒนาดัชนีใหม่ที่จะช่วยสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ Jump+ และร่วมกับสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) จัดทำบทวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจลงทุน

สร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นด้วยการนำ AI มาใช้ในงานด้านกำกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อติดตาม และเฝ้าระวัง ดำเนินมาตรการ และแจ้งเตือนแก่ผู้ลงทุนอย่างทันท่วงที พร้อมขยายองค์ความรู้ด้านบรรษัทภิบาล (corporate governance) สร้างความเข้าใจกลไกตลาดทุนแก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการประเมินประสิทธิผล และทบทวนมาตรการให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน

พร้อมทั้ง ส่งเสริมและขยายการใช้ผลิตภัณฑ์ตลาดทุน นำเสนอข้อมูลและบริการที่ตอบโจทย์รองรับผู้ลงทุนที่หลากหลายและแตกต่าง พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับการบริหารพอร์ตและการลงทุนทุกสถานการณ์ และขยายเวลาซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ ควบคู่กับการดึงดูดผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ผ่านการนำเสนอข้อมูล (roadshow) ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

  1. ร่วมพัฒนา เพื่อความทั่วถึง (Grow Together & Inclusively)

โดยสนับสนุนการทำงานของผู้ร่วมตลาด พัฒนา Bond Connect Platform เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนบุคคลเข้าถึงการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรกและตลาดรองได้ง่ายขึ้น โดยผู้ลงทุนบุคคลสามารถจองซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรกในลักษณะเดียวกับการจองซื้อหุ้น IPO และยังสามารถซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองผ่าน Platform พร้อมทั้งสามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันสำหรับการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอื่นได้

ทั้งนี้ มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งหนึ่งในโครงสร้างดังกล่าว ได้แก่ การพัฒนาระบบชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ใหม่ (SET Clear) กำหนดเริ่มให้บริการในปี 2570 และขยายความร่วมมือในรูปแบบ IT service partnership อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ร่วมตลาด

อีกทั้ง ขยายการสื่อสารแก่ผู้ลงทุนและประชาชน เน้นการสื่อสารที่เข้าถึง ทั่วถึง สร้างความเข้าใจในประเด็นที่ผู้ลงทุนควรรู้แบบเข้าใจง่ายและทันการณ์ ผ่านช่องทางใหม่ๆ ด้วยสื่อ และกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน พร้อมเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพหลอกลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ

  1. สรรสร้างคนและอนาคต (Groom People & Our Future)

พัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ทางการเงิน สร้างคนรุ่นใหม่ (Next Gen) ประกอบด้วย ผู้ลงทุน, ผู้ประกอบวิชาชีพ, ภาคการศึกษา และ Influencer ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน การลงทุน พร้อมทั้งนำเสนอ SET Learn Scape Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรองรับกระบวนการการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลเพื่อพัฒนาบุคลากรบริษัทจดทะเบียน ช่วยสร้างศักยภาพพนักงาน เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ทั้ง 2 โครงการจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำเสนอเนื้อหาความรู้ให้กลุ่มเป้าหมายมีภูมิคุ้นกันด้านการเงินและการลงทุน

สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ low carbon economy ร่วมกับพันธมิตร ด้วยการออกแบบรูปแบบ Carbon Market Platform ที่เหมาะสม เพื่อรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตทั้งในตลาดภาคบังคับ (Compliance market) และภาคสมัครใจ (Voluntary market) พัฒนาเครื่องมือในการคำนวณ Carbon Footprint ขององค์กร (SET Carbon) พร้อมสนับสนุนการสร้างหลักสูตรและจัดสอบผู้ทวนสอบ (Verifier) เพื่อส่งเสริมการมุ่งสู่ Low Carbon Economy  และ Net Zero ในปี 2593  เตรียมพร้อมคน ปรับวิถีงาน ตอบโจทย์อนาคต  เสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัล โดยเฉพาะ AI แก่พนักงาน เตรียมความพร้อมพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต

“ก้าวสู่ทศวรรษที่ 6 ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการมุ่งสร้างโอกาสการเติบโตอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ผ่านนวัตกรรมและบริการที่ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนของตลาดทุนและเศรษฐกิจไทย สอดรับกับเป้าหมาย ‘To Make the Capital Market Work for Everyone’” นายอัสสเดช กล่าว

นอกจากนี้ การวางผนกลยุทธ์ ในระยะ 3 ปีนั้น ตลท. ต้องการทำเพื่อส่วนรวมพร้อมกับสร้างความเท่าเทียม อย่างไรก็ตามสิ่งที่นอกเหนือจากแนวทางที่กล่าวไปในวันนี้ สิ่งสำคัญที่ในปัจจุบันนั้นคือการสื่อสารซึ่ง ตลท. มีการปรับปรุงให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในทางกลับกัน ตลท. เองก็ต้องการความช่วยเหลือและความร่วมมือจากสื่อมวลชน เพื่อที่จะพัฒนาให้สามารถถ่ายทอดข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและครบถ้วน

ทั้งนี้ หากถามถึงการวัดผล KPI ในแนวทาง 3 โครงการ เบื้องต้นขอกล่าวว่าแต่ละโครงการมีวัตถุประสงค์และปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการวางแผนพัฒนา อาทิ Jump+” ซึ่งต้องมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการในรอบที่ 2 เพื่อให้เห็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และคาดการณ์ว่าแผนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นช่วงปลายปีนี้ ส่วนไทม์ไลน์การดำเนินแผนงานผ่าน 3 โครงการ ตลท. คาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นไป

Back to top button