ERW ทุ่มเงิน 6 พันล้าน เช่าที่ดินย่าน “พร้อมพงษ์” รุกสร้างอสังหาฯ ตามแผน

ERW เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยจะชำระค่าตอบแทนรายปีรวมถึงค่าเช่าล่วงหน้าเป็นเงินสด โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.14 พันล้านบาท


บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 8/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวกับนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดิน รวม 11 ราย (รวมเรียกว่า “ผู้ให้เช่า”) เพื่อเช่าที่ดินขนาด 2-0-17 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

โดยมีระยะเวลาการเช่า 30 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2571 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2601) (ระยะเวลาการเช่า) และบริษัทฯ มีสิทธิต่อระยะเวลาการเช่าออกไปได้อีก 30 ปีนับจากวันครบกำหนดระยะเวลาการเช่า (ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2601 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2631) (รวมการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ว่า “ธุรกรรม”)

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวกับผู้ให้เช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า “ประกาศเรื่องรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”)

โดยมีขนาดรายการรวมสูงสุด เมื่อคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน เท่ากับร้อยละ 31.7อ้างอิงตามงบการเงินฉบับสอบทานของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นงบการเงินล่าสุดในวันที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำธุรกรรม

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนก่อนหน้าที่ผ่านมาและเมื่อรวมขนาดรายการของการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาดังกล่าวเข้ากับธุรกรรมของบริษัทฯ ตามที่ระบุไว้ข้างต้น จะทำให้ขนาดรายการรวมสูงสุดเท่ากับร้อยละ 33.5ธุรกรรมนี้จึงเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่2 เนื่องจากมีมูลค่าเท่ากับร้อยละ 15 หรือสูงกว่าแต่ตํ่ากว่าร้อยละ 50 ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศเกี่ยวกับธุรกรรมดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) และนำส่งสารสนเทศดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับจากวันที่ที่มีการเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามประกาศเรื่องรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

บริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทน ซึ่งรวมถึงค่าเช่าล่วงหน้า ค่าเช่ารายปีสำหรับระยะเวลาการเช่า และค่าเช่า รายปีสำหรับระยะเวลาการเช่าที่ต่อออกไปเป็นเงินสด โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 6,141.70 ล้านบาท ให้กับผู้ให้เช่า ซึ่งตลอดระยะเวลาสัญญาเช่าที่ดิน บริษัทฯ ตกลงชำระค่าเช่ารายปีให้แก่ผู้ให้เช่าล่วงหน้าเป็นประจำทุกปี ตามจำนวนที่ระบุในสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว ทั้งนี้ค่าตอบแทนดังกล่าวไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการ พัฒนาโครงการบนที่ดินดังกล่าว

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้สำหรับการเข้าทำธุรกรรมจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและแหล่งเงินทุนภายใน ของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าการชำระค่าตอบแทนในการเข้าทำธุรกรรมนี้ จะไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อ สภาพคล่องหรือเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินทุนสำรองที่เพียงพอและมีกระแสเงินสดจากการ ดำเนินงานเป็นบวก

Back to top button