CK เด่น ท็อปพิกกลุ่มอสังหาฯ
ในขณะที่งบไตรมาส 3/67 ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่มีตัวเลขติดลบกันถ้วนหน้า แต่ 1 ใน บิ๊ก 3 อย่าง CK ยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
คุณค่าบริษัท
ในขณะที่งบไตรมาส 3/2567 ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างส่วนใหญ่มีตัวเลขติดลบกันถ้วนหน้า แต่ 1 ใน บิ๊ก 3 อย่างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 1,007.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 641.04 ล้านบาท
สาเหตุมาจากรายได้ก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น 5% อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท เป็นไปตามฐาน backlog ที่สูงขึ้นอยู่ที่ราว 2.1 แสนล้านบาท จากในไตรมาส 3/2566 ที่ 1.4 แสนล้านบาท ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมปรับตัวดีขึ้น 79% จากการเติบโตของทุกกลุ่มบริษัท โดยผลการดำเนินงาน BEM ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากธุรกิจรถไฟฟ้าที่มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มและปรับขึ้นค่าโดยสาร ส่วน CKP เป็นไฮซีซั่น จากเข้าสู่ฤดูฝน และโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง เพาเวอร์มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ยังรับรู้เงินปันผลจาก TTW ที่ 232 ล้านบาท
ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,616.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,344.67 ล้านบาท และมีรายได้รวม 29,185.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 28,820.36 ล้านบาท
จากผลงานดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อ CK โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กำไรปกติในงวด 9 เดือนแรก เท่ากับ 1.6 พันล้านบาท คิดเป็น 89% ของประมาณการทั้งปี ส่วนแนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/2567 คาดอ่อนลงจากไตรมาสก่อน จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่ชะลอลงตามปัจจัยฤดูกาลและไม่มีเงินปันผลรับ ส่วนธุรกิจรับเหมาฯ คาดทรงตัวเนื่องจากมีวันหยุดยาวและรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่ในช่วงสำรวจเพื่อเตรียมพื้นที่
คงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งคาดเป็นเพียงรายเดียวในกลุ่มรับเหมาฯ ที่เติบโตได้ และปี 2568 คาดโต 12% อยู่ที่ 2 พันล้านบาท หนุนจากทั้งธุรกิจก่อสร้างที่เริ่มเข้างานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการเติบโตต่อเนื่องของบริษัทร่วม ขณะที่ backlog ปัจจุบันแข็งแกร่งระดับ 2.1 แสนล้านบาท เทียบเท่ารายได้ 5 ปี ยังเลือก CK เป็น Top Pick ของกลุ่มฯ
ด้าน บล.ดาโอ ระบุว่า แม้ในไตรมาส 4/2567 ของ CK ดอกเบี้ยจ่ายอาจทรงตัวสูงจากไตรมาสก่อน และไม่มีประมูลโครงการใหม่ แต่แนวโน้มดอกเบี้ยจ่ายปี 2568 จะทยอยลดลง ขณะที่ backlog ปัจจุบันยังแข็งแกร่ง โดยมีประเด็นสำคัญ 1) เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปี 2568 จะโตตามการรับรู้ backlog ขณะที่งานโยธาสายสีส้ม เริ่มทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่กลางพ.ย. 2567
2) แม้ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อาจไม่เห็นการเปิดประมูลโครงการใหญ่ แต่เซ็นงานใหม่สูงถึง 1.2 แสนล้านบาทแล้ว และ 3)ดอกเบี้ยจ่ายไตรมาส 4/2567 ทรงตัวสูงจากไตรมาสก่อน จากเงินกู้ระยะสั้นสูงขึ้นชั่วคราวตามการเร่งงาน อย่างไรก็ตามคาดการณ์ปี 2568 จะทยอยปรับตัวลง คงกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.6 พันล้านบาท เติบโต 12% และปี 2568 ที่ 2 พันล้านบาท เติบโต 21%
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CK ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 18.44 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.81 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 1.21 เท่า ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.43 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 26.09 บาท จากราคาต่ำสุด 23 บาท และราคาสูงสุด 28 บาท