‘การบินไทย’ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
อีกหนึ่งในกระบวนการสำคัญตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI นั่นคือ “การแปลงหนี้เป็นทุน”
อีกหนึ่งในกระบวนการสำคัญตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI นั่นคือ “การแปลงหนี้เป็นทุน” มูลค่ารวม 55,173 ล้านบาท กระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
เริ่มจาก 1)การแปลงหนี้เป็นทุนแบบภาคบังคับ (Mandatory Conversion) จำนวน 14,862.37 ล้านหุ้น (ราคา 2.5452 บาท) มูลค่ารวม 37,828 ล้านบาท 2)การแปลงหนี้เป็นทุนแบบภาคสมัครใจ (Voluntary Conversion) จำนวน 4,911.24 ล้านหุ้น (ราคา 2.5452 บาท) มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท 3)การแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่เป็นทุนจำนวน 1,903.61 ล้านหุ้น (ราคา 2.5452 บาท) มูลค่ารวม 4,845 ล้านบาท
โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่เจ้าหนี้สถาบันการเงิน 2 ราย คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มูลหนี้รวมกว่า 16,200 ล้านบาท (ไม่รวมหนี้หุ้นกู้) หลังแปลงหนี้เป็นทุนทำให้ BBL มีสัดส่วนถือหุ้น 2,407.88 ล้านหุ้น หรือ 10.35% และ KTB มีสัดส่วนถือหุ้น 1,327.32 ล้านหุ้น หรือ 5.73%
นั่นทำให้งบการเงินไตรมาส 4/2567 ของธนาคารทั้ง 2 แห่ง จะปลดล็อกสถานะ “หนี้เสียการบินไทย” ลงทันที พร้อมกลับรายการทางบัญชีที่เคยตั้งสำรองไว้กลับมาเป็นบวกด้วยเช่นกัน..!!!
ส่วนอีกกลุ่มเจ้าหนี้รายใหญ่ นั่นคือ “กระทรวงการคลัง” ที่หลังมีการแปลงหนี้เป็นทุนจะถือหุ้นการบินไทยเพิ่มขึ้นอีก 5,264.09 ล้านหุ้น หรือ 22.72% ทำให้หลังแปลงหนี้เป็นทุนจะถือหุ้นรวม 6,308.82 ล้านหุ้น หรือ 27.23%
พร้อมกันนี้ธนาคารออมสิน มีการแปลงหนี้เป็นทุน 401.59 ล้านหุ้น หรือ 1.73% หลังทำธุรกรรมจะถือหุ้น THAI 447.99 ล้านหุ้น หรือ 1.93%, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย มีการแปลงหนี้เป็นทุน 397.33 ล้านหุ้น หรือ 1.71%, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีการแปลงหนี้เป็นทุน 167.34 ล้านหุ้น หรือ 0.72% และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) มีการแปลงหนี้เป็นทุน 129.75 ล้านหุ้น หรือ 0.56%
ส่งผลให้หลังแปลงหนี้เป็นทุน กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจในสังกัด จะถือหุ้นการบินไทย 7,451.25 ล้านหุ้น หรือ 32.16%
ดูจากสัดส่วนข้างต้น.. “การบินไทยไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ” อย่างแน่นอน..!!
แต่ทว่า..อีกหนึ่งกระบวนการสำคัญภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ นั่นคือ..การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 9,822.50 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมราคา 4.48 บาทกำหนดเปิดจองซื้อและชำระเงินวันที่ 6-12 ธ.ค. 67 และหากมีหุ้นสามัญคงเหลือจากการจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจะมีการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ที่ราคาขายเดียวกันคือหุ้นละ 4.48 บาท
อย่างไรก็ดี 29 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา การประชุมเจ้าหนี้การบินไทย มีมติเห็นชอบ 1)ให้อำนาจแก่ผู้บริหารแผนลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เพื่อนำไปล้างขาดทุนสะสม ที่ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 มีขาดทุนสะสมอยู่กว่า 60,553 ล้านบาท 2)ให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้
3)เพิ่มผู้บริหารแผนจำนวน 2 คน คือ ปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และ พลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ทำให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการเพิ่มเป็น 5 คน จากปัจจุบัน 3 คน โดยศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาผลการประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าว 12 ธ.ค.นี้
ถือว่า..เข้าสู่ปลายทางของการฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้การบินไทยได้เทกออฟอีกครั้ง.!? ที่สำคัญหุ้น THAI จะได้กลับเข้ามาซื้อขายได้อีกครั้งช่วงปลายปี 2568
ส่วนจะมีใครทำตัวเป็น “แมวหวงก้าง” อย่างไร..!? ประเดี๋ยวคงจะได้รู้กัน..เชื่อหัวไอ้เรืองได้เลย..!!
เล็กเซียวหงส์