หลบหน่อย BIGC มา!โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยวานนี้จะฉายสปอร์ตไลต์ไปที่หุ้น BIGC มากกว่าหุ้นตัวอื่นๆ หลังจากดีลข้อตกลงการซื้อขายสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จึงมีนักเล่นจากหลายสำนักจับจ้องกันอย่างถ้วนหน้า เพราะเป็นดีลยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.24 แสนล้านบาท แถมการเข้ามาในครั้งนี้จะทำให้ “เจ้าสัวเจริญ”  กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทนกลุ่มคาสิโนที่ถืออยู่ 58.6% ในทันทีเจ้าค่ะ

*เมื่อดีลทุกอย่างถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยการเปิดข้อเสนอซื้อหุ้นในราคาหุ้นละ 252.88  บาท เลยเปิดทางให้ทุกอย่างทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม วานนี้ถึงเห็นบิ๊กล็อต 3 รายการ เป็นจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 5.40 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1  พันล้านบาท ในราคาเฉลี่ย 248.50 บาทต่อหุ้น “โมนิก้า” ไม่สามารถตีความเป็นเรื่องอื่นได้อีกแล้ว นอกจากการเร่งปิดดีลพะยะค่ะ

*เนื่องจากเมื่อมองไปที่ราคาปิดของหุ้นยืนอยู่ที่ 249 บาท บวกไป 22 บาท หรือขึ้นไป 9.69% ด้วยมูลค่า 1.31 พันล้านบาท ย่อมแสดงให้เห็นกระบวนการถ่ายโอนอำนาจเริ่มเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นรวดเร็วทันใจดีเหลือเกิน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ผู้คนมากมายในตลาดหุ้นเม้าท์ถึงการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้นะคะ

*ส่วนที่แน่ๆ คือ หุ้นตัวนี้ช่วยดันดัชนีเกือบ 2 จุด ถ้าไม่ได้พระเอกรายนี้เข้ามาค้ำยันอย่างแข็งแกร่ง ดัชนีคงไม่สามารถประคองตัวปิดที่ 1,307.57 จุด บวกไป 1.28 จุด ด้วยมูลค่า 2.70 หมื่นล้านบาท และถ้าดูจากมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางก็เป็นที่เข้าใจกันอย่างแพร่หลายว่า นี่เป็นช่วงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน! บรรยากาศการลงทุนก็ซึมๆ เศร้าๆ แบบนี้แหละค่ะ

*คิดดูแล้วกัน! ขนาดหุ้นร้อนอย่าง SUPER ที่มีหน้าเสื่อช่วยกันเชียร์ตั้งมากมาย สุดท้ายกลับแป้กไม่เป็นท่า! เดี๊ยนถือเป็นเกมโหดที่แมงเม่าไม่อยากจะเชื่ออะไรง่ายๆ อีกต่อไป เพราะมุกเรื่องการจ่ายไฟไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกแล้ว แถมในระหว่างนี้ยังมีการพับแผนเรื่องการลงทุนไปดื้อๆ “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นเพียงแค่การลากไปออกของ งานนี้ถึงต้องอยู่ห่างๆ เป็นดีที่สุดนะจะบอกให้

*ส่วนที่สามารถอยู่ใกล้ๆ ได้อย่างอุ่นใจ “โมนิก้า” กลับมองไปที่น้องบีม BEM ของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า บริษัทแห่งนี้จะเติบโตไปอย่างไร? แถมการจัดโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ ไม่ใช่การจัดกันเล่นๆ ส่งผลให้ทิศทางของการเบ่งตัวเลขกำไรก็เลยชัดเจนขึ้นเป็นกอง ล่าสุดหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่า 430 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า นี่เป็นจังหวะน่ารักน่าลุ้นสุดๆ เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ SMT หลังจากเห็นโครงร่างของการทำธุรกิจเป็นที่เรียบร้อย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า นี่เป็นปีของการเทิร์นอะราวด์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง! ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่ตอนที่หุ้นยังย่ำอยู่ที่ 10 บาท ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 15.30 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.80% พร้อมกับทำ new high ในรอบ 4 ปีครึ่ง มันเป็นอีกช็อตที่น่าสนใจไหมล่ะคะ

*ส่วนในรายของ BWG อาจเป็นกรณียกเว้น หากเราเม้าท์ถึงการลงทุนที่ยาวขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาก็ค่อยๆ ลากหุ้นขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ รินหุ้นออกมาตั้งแต่หุ้นขึ้นไปแตะ 2.50 บาท ในช่วงกลางเดือนมี.ค. 58 จนหุ้นอ่อนตัวลงมาทำ low ที่ระดับ 1.18 บาท เมื่อต้นเดือนม.ค. 59 “โมนิก้า” ถือเป็นความร้าวรานใจที่ผู้เล่นต้องคิดให้ดีก่อนตะลุย เพราะมันไม่มีอะไรมาการันตีการทะยานขึ้นเลยสักอย่าง แถมวานนี้เด้งสู้มือขึ้นมาปิดที่ 1.66 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 7.80% มันเว่อร์ไปหรือเปล่าจ๊ะ

*สำหรับในรายของ ASIMAR มีแบ็กอัพผลประกอบการเป็นตัวชูโรง และดูเหมือนปีนี้ทิศทางของธุรกิจจะอู้ฟู่ ราคาหุ้นถึงกระชากขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 5 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 7.70% ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นบนค่า P/E ไม่ถึง 10 เท่า มันเป็นข้อมูลที่จูงใจให้นักเล่นกล้าเสี่ยงกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ถึงอยากถามว่า คุณดื่มนมหรือยัง..อุ๊ย..คุณมีหุ้นหรือยัง อิอิอิ

*ส่วนคนที่ชอบเล่นกับของร้อน “โมนิก้า” ขอให้ชำเลืองดูหุ้น TLUXE ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้ด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นทางเลือกที่สุ่มเสี่ยงที่สุดทางหนึ่ง! เหตุผลที่ต้องเอ่ยเช่นนี้เป็นเพราะธุรกิจอาหารสัตว์ไม่เฟื่องฟูแบบยาวนาน การเด้งขึ้นมาปิดที่ 5.85 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 14.70% จึงเหมาะเพียงแค่ตามน้ำช่วงสั้นๆ นะจะบอกให้