Intel กับความถดถอย.!
สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงระหว่างที่ “เจนเซน หวง” ผู้ก่อตั้ง NVIDIA บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เดินทางมาเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand
สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงระหว่างที่ “เจนเซน หวง” ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งเอ็นวิเดีย (NVIDIA) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เดินทางมาเข้าร่วมงาน AI Vision for Thailand พร้อมประกาศสนับสนุนยกระดับประเทศไทย ก้าวสู่ “เอไอแลนด์” ในอนาคต
แต่ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้เองมีข่าวใหญ่วงการไอทีโลก นั่นคือ Pat Gelsinger ซีอีโอ Intel ตัดสินใจลาออก หลังเจอแรงกดดันจากบอร์ดบริหาร จากผลการดำเนินงาน Intel ตลอดช่วงที่ผ่านมา ไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
การลาออกของ Pat Gelsinger มีผลทันที เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังการประชุมบอร์ดบริหารโดยมีรายงานว่าบอร์ดไม่พอใจกับแผนฟื้นฟูธุรกิจ Intel ที่ใช้งบประมาณสูงมาก และเห็นว่าความคืบหน้าของแผนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บอร์ดจึงให้ตัวเลือกแก่ Gelsinger ว่าจะเกษียณหรือถูกปลด และ Gelsinger เลือกที่จะลาออกเอง
ตามเป้าหมายเดิม Gelsinger มีแผนใช้เวลา 4 ปีในการฟื้นฟูธุรกิจ Intel ซึ่งการลาออกครั้งนี้ทำให้แผนดังกล่าวไม่เสร็จสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้ โดยแผนนี้มีเป้าหมายพา Intel กลับมาเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปขนาดเล็กและเร็วที่สุด ซึ่งตำแหน่งนี้เคยตกไปอยู่กับ TSMC ผู้ที่ผลิตชิปให้คู่แข่งของ Intel อย่าง Nvidia
ช่วงการบริหารงาน Gelsinger ตั้งเป้าผลิตและพัฒนาชิปให้รองรับการทำงานที่มีศักยภาพของ AI ให้ลูกค้ารายใหญ่ ๆ แต่สุดท้าย Intel ต้องสูญเสียหรือต้องยกเลิกสัญญาหลายฉบับและไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามที่สัญญาไว้..
สำหรับ Intel ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1968 ถือเป็นเจ้าใหญ่ที่ครองตลาดชิปของ Silicon Valley แต่ทว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel กลับเข้าสู่ช่วงยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อความก้าวหน้าของโลก AI ได้ ที่สำคัญหลังจาก Gelsinger เข้ามาบริหารตั้งแต่ปี 2021 ทาง Intel ไม่สามารถนำพา Intel ให้ดีขึ้นได้เลย แต่ในทางกลับกันมูลค่าทางตลาด Intel ลดลงอย่างมาก จนปัจจุบันมีมูลค่าทางตลาดน้อยกว่า Nvidia ถึง 30 เท่า
ทั้งนี้ Intel มีการแต่งตั้ง David Zinsner ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) และ Michelle Johnston Holthaus เป็นซีอีโอร่วมชั่วคราว ช่วงระหว่างที่บอร์ดกำลังมองหาผู้บริหารคนใหม่ และส่วนการบริหารงานของ Intel Foundry หรือโรงงานผลิตชิปของ Intel จะยังดำเนินการตามเดิม
จากกรณีที่เกิดขึ้นกับ Gelsinger ทำให้ “วอลล์สตรีท” จารึกอีกเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์หลังซีอีโอ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ คือ Intel บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ และ Stellantis บริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกาศลาออกช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ไม่เพียงเท่านั้นการลาออกดังกล่าว
นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีซีอีโอลาออกกว่า 1,800 คน นับเป็นตัวเลขสูงสุด จากสถิติที่มีการบันทึกไว้โดยบริษัท Challenger, Gray & Christmas เริ่มติดตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งซีอีโอ นับตั้งแต่ปี 2545 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ที่มีการลาออกกว่า 1,500 คน ทำให้ปีนี้เป็นปีที่มีสถิติการลาออกของซีอีโอสูงสุด