ซึมหนัก

ต้องบอกกันตามตรงว่า อีฉันพยายามสรรหาข่าวดี ๆ มาบอกเล่ากับแฟนคลับตลอดเวลา และพยายามเชียร์ให้รัฐบาลทำคลอดแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแบบจัดเต็ม


ต้องบอกกันตามตรงว่า อีฉันพยายามสรรหาข่าวดี ๆ มาบอกเล่ากับแฟนคลับตลอดเวลา และพยายามเชียร์ให้รัฐบาลทำคลอดแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแบบจัดเต็ม แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังซ้ำซากเมื่อสิ่งที่คาดหวังไม่มาตามนัดเลยสักเรื่อง ผนวกกับเป็นช่วงที่นักเล่นชะลอลงทุนกันเป็นแถว จึงทำให้บรรยากาศการลงทุนดูวังเวงวิโหวกโหว่เหว่ต่อไปแบบไม่มีกำหนดไงล่ะคะ

ยิ่งเห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาแบบไร้ทิศทาง และค่อนไปในทางซึมลงเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ตัวอีฉันเจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน เพราะทฤษฎีภูเขาสามยอดต่ำลงมันชัดเสียเหลือเกิน พร้อมกันนั้นก็แสดงให้เห็นว่า การหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,450 จุดแบบไร้เรี่ยวแรงขัดขืน น่าจะเป็นการยกธงขาวเพื่อยอมรับสภาพในเบื้องต้นว่า ตอนนี้ไปไม่ไหวจริง ๆ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการลงทุนต่อจากนี้ซึมกะทือไปอีกนานพะย่ะค่ะ

ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ หากวานนี้ไม่ได้ DELTA เข้ามาช่วยพยุงดัชนีอย่างเต็มตัว ก็รับรองได้เลยว่า ตลาดหุ้นไทยคงดูไม่จืด และทำให้การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,439.89 จุด ลบไป 3.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.14 หมื่นล้านบาท ยังไม่สะท้อนภาพความเป็นจริงเท่าที่ควร และตัวอีฉันก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้มีข่าวร้ายปะทุขึ้นมาอีกเลย เพราะไม่อยากพบกับเหตุการณ์น้ำตาเช็ดหัวเข่าเหมือนเมื่อก่อนเจ้าค่ะ

ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากพี่เทพ PTTEP ก็ตกอยู่ในสภาพหัวทิ่มบ่อครั้งแล้วครั้งเล่า จนมองไม่เห็นจุดกลับตัวอยู่ตรงไหนแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างแรง เพราะมันหมายความว่า ราคาหุ้นกำลังลงมาทดสอบแนวรับ 120 บาทอีกครั้ง และครั้งนี้ต้องยืนระยะให้ได้ในเร็ววัน และควรจะรีบเด้งกลับอย่างรวดเร็ว หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ123 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาทนะออเจ้า

ประเด็นข้างต้นเทียบเคียงได้จากสถานการณ์ของหุ้น EA เจอมรสุมสารพัดอย่างถาโถมไม่หยุดหย่อน จนตอนนี้ฝ่าด่านมาถึงการเพิ่มทุน เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างคล่องตัว ก็เป็นเกมที่ต้องไปวัดกันอีกทีว่า เมื่อถึงวันสุดท้ายของการใช้สิทธิ์ราคาหุ้นจะเกิดอาการไดรูทไหม? และหากผ่านไปได้ก็ต้องไปลุ้นวันที่ลูกหุ้นเข้าเทรดจะไดรูทไหม? เดี๊ยนเลยมองว่า คนที่เข้าซื้อหุ้นตอนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ก็เท่านั้นเอง

เช่นเดียวกับคนที่เข้ามาเล่นหุ้น TTB น่าจะเป็นขาประจำที่คุ้นเคยกับอาการเหวี่ยงตัวแรงของหุ้นตัวนี้ จึงกลับมาไล่ซื้อหุ้นต่อเนื่องร่วมสัปดาห์ จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1.87 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 789 ล้านบาท พร้อมกับมีลุ้นขึ้นไปทดสอบไฮเดิมบริเวณ 2 บาทในไม่ช้า..ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ต้องฝ่าด่านบริเวณ 1.90 บาทไปให้ได้เสียนะตัวเอง

ส่วนรายที่เดาใจยากเหลือเกิน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น ITC แบบไม่ลังเลใจ เพราะในมุมของผลงานก็ค่อนข้างดูดี และเมื่อมองในมุมของ PE 18 เท่า ก็เป็นระดับที่สามารถลงทุนได้ แต่สุดท้ายหุ้นก็ไปไม่ถึงไหนเสียที แถมวานนี้ทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 21.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 169 ล้านบาทเฉยเลย..ทั้งที่วันก่อนยังตั้งท่าไต่เพดานขึ้นไปหาแนวต้าน 23 บาทอยู่เลย..อีฉันงงสุด ๆ เลยจ้า!

สำหรับรายที่ออกอาการเป๋ชัดเจน “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น CENTEL เป็นลำดับถัดมา เพราะการย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 35 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112 ล้านบาท ทั้งที่ไม่มีวี่แววจะทรุดตัวลงแรงมาก่อนแบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเอาเสียเลยในภาวะตลาดหุ้นเช่นนี้ เพราะมันหมายความว่า นักเล่นไม่อยากถือหุ้นตัวนี้ต่อไปนะจ๊ะ

ไหน ๆ มีเรื่องต้องคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น BCP เพื่อชี้ให้เห็นโอกาสที่หุ้นจะทำ “Triple Bottom” ที่บริเวณ 29 บาท สามารถตีความได้ 2 ทางคือ “เด้งกลับ” กับ “ลงต่อ” ซึ่งตัวอีฉันเชียร์ให้เป็นอย่างแรกมากกว่า เพราะถ้าเป็นอย่างหลังที่ราคาหุ้นไหลลงอีก มันเป็นภาพที่ย้ำถึงความกังวลที่มีต่อผลงานไตรมาส 4 จึงอยากให้แฟนคลับจับตาวันนี้จะเป็นอย่างไร? หลังหุ้นยืนปิดที่ระดับ 29.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 542 ล้านบาทไงล่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button