น้ำมันดิบอ่อนตัวอีกรอบ SET เสี่ยงหลุด 1,300เก็บ 17 บจ.ร้อน เน้นกลุ่มแบงก์-รับเหมาฯเด่น
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยซื้อขายเบาบาง มีโอกาสหลุดแนวรับ 1,300 จุดจากปัจจัยลบคือ ราคาน้ำมันดิบที่ย่อลงแรงอีกครั้ง และตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงจากความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนแนะนำทยอยขายทำกำไรหากดัชนีอยู่เหนือ 1,300 จุด เพื่อรอรับใหม่เมื่อดัชนีย่อลงใกล้หรือต่ำกว่า 1,290 จุด เน้นเก็งกำไรกลุ่มแบงก์, รับเหมาฯ, กลุ่มที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันขาลง, กลุ่มที่คาดว่ารายงานงบ Q4 ดี และกลุ่มปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.49 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งยังปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดทำการเช่น ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ปรับตัวลง
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยซื้อขายเบาบาง มีโอกาสหลุดแนวรับ 1,300 จุดจากปัจจัยลบคือ ราคาน้ำมันดิบที่ย่อลงแรงอีกครั้ง และตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงจากความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนแนะนำทยอยขายทำกำไรหากดัชนีอยู่เหนือ 1,300 จุด เพื่อรอรับใหม่เมื่อดัชนีย่อลงใกล้หรือต่ำกว่า 1,290 จุด เน้นเก็งกำไรกลุ่มแบงก์, รับเหมาฯ, กลุ่มที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันขาลง, กลุ่มที่คาดว่ารายงานงบ Q4 ดี และกลุ่มปันผลสูง ขณะที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานต้นน้ำ และสื่อสาร
หุ้นเด่นเลือก BJCHI-VGI-KTB-TISCO-KKP-STEC-CK-UNIQ-AAV-CENTEL-MINT-CHG-CI-BR-SYNTEC-ICHI และ MFEC
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (9ก.พ.) คาดว่าซึมลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ กังวลเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบร่วง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงหลุด 30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาที่ระดับ 29.69 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น sentiment เชิงลบ ซึ่งตลาดหุ้นช่วงนี้จะผันผวนตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เนื่องจากการเจรจาระหว่างกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียและเวเนซุเอล่ายังไม่ได้ข้อสรุป
ภาพรวมวันนี้คงจะซึมๆ วอลุ่มเบาบางตลาดภูมิภาคเช้านี้ที่เปิดทำการ มีตลาดหุ้นไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดอื่นๆ ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีนพร้อมให้แนวรับ 1,300 และ 1,295 จุด แนวต้าน 1,313-1,317 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) ว่า การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones และราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยกดดัน SET ช่วงเปิดตลาด แต่คาดว่าจะไม่หลุดแนวรับย่อยที่ 1,300 จุด และคาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,292-1,300 จุด ต่อเนื่องจากเมื่อวานด้วยปริมาณการซื้อขายน้อยลง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญชะลอการลงทุน และตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ถ้อยแถลง Janet Yellen ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 10-11 ก.พ.นี้ ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ
ยังเน้นกลุ่มหุ้น 2nd-Tier ต่อเนื่อง โดยหุ้นใหญ่ที่เป็นตัวนำการปรับสูงขึ้นก่อนหน้าเริ่มใกล้แนวต้านระยะสั้นแล้ว ได้แก่ 1) ธนาคารขนาดกลาง-เล็กให้ Div Yield สูง: KTB TISCO KKP 2) รับเหมาฯ: STEC CK UNIQ และ 3) โรงแรม และโรงพยาบาล: CENTEL MINT CHG
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) ประเมินดัชนี SET เช้ามีโอกาสอ่อนตัวลงสู่ระดับแนวรับบริเวณ 1,290 จุด อีกครั้ง โดยวางจุด Filter แนวรับสำคัญที่ 1,280 จุด หากยืนได้ทิศทางดัชนียังเป็นลักษณะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร AAV (+ คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ใน Q1/59 เพิ่มขึ้น 18 % และทิศทางราคาน้ำมันขาลง)
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) คาด SET วันอังคารลดลง แนะเข้าเก็งกำไรแถวระดับจิตวิทยา 1,300 (วานนี้ขึ้นแต่ปิดต่ำ ตามหุ้นต่างประเทศย่อ) เมื่อคืนหุ้นโลกลงหนักตามเครืองชี้ความกลัวที่พุ่งแรง (เช่นดัชนี VIX +11.2% สูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ และดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ ลงแรง) ผนวกราคาน้ำมันปรับฐาน 2.8% หลังการประชุมนัดพิเศษระหว่างซาอุฯ กับเวเนซุเอลา ไม่มีการคุยเรื่องลดปริมาณผลิตน้ำมัน ขณะที่จิตวิทยาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากหุ้นธนาคารในสหรัฐฯ ที่ลงแรง หลังแบงก์ ออฟ อเมริกาและเจพี มอร์แกน ชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะติดลบ (แต่ทาง KGI ไม่ได้มองเช่นนั้น) ขณะนี้ยังมองการร่วงของตลาดหุ้นเป็นเพียงระยะสั้น แนะทยอยเข้าเก็งกำไร เน้นหุ้น “Domestic plays” และหุ้นเงินปันผลสูง
หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน BJCHI (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท), VGI (เป้า Consensus 3.92 บาท)
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) ว่า ตลาดไทยเมื่อวานนี้มีปริมาณซื้อขายเบาบางและทรงตัวได้ดีเหนือ 1,300 จุด ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์คาดวันนี้ตลาดไทยจะปรับลง มีโอกาสหลุดแนวรับ 1,300 จุดจากปัจจัยลบคือ ราคาน้ำมันดิบที่ย่อลงแรงอีกครั้ง หลังการประชุมระหว่างซาอุและเวเนซุเอล่าไม่เกิดข้อสรุปเรื่องการลดกำลังการผลิต และความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรป ตลอดจนปัญหาเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ที่ลดลงต่อเนื่องของเหล่าแบงก์ใหญ่ในยุโรปยังคงเป็นแรงกดดัน
สำหรับผลกระทบต่อดัชนี SET ให้น้ำหนักต่อปัจจัยต่างประเทศ 80% ปัจจัยภายในประเทศ 20% และแนะนำทยอยขายทำกำไรหากดัชนีอยู่เหนือ 1,300 จุด เพื่อรอรับใหม่เมื่อดัชนีย่อลงใกล้หรือต่ำกว่า 1,290 จุด
กลยุทธ์: เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานต้นน้ำและสื่อสารไปก่อน
แนวรับ/แนวต้าน: 1,300/1,320 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 40%:พอร์ตหุ้น 60%
นักลงทุนระยะสั้น: CI (2.80), BR (8) นักลงทุนระยะยาว: SYNTEC (3.80), CK (34)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ก.พ.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค กราฟล่าสุดแสดงภาพดีดตัวบน MA10 รูปแบบระยาวยังเป็นไปในเชิงขาขึ้น โดย MACD มีค่าเป็นบวกเพิ่มขึ้นสูงสุดในสัปดาห์นี้ แต่ดัชนีตลาดที่ดีดตัวเมื่อวานนี้วอลุ่มบางลง ทำให้ตลาดมีกรอบการปรับลงหรือแกว่งตัวลงในวันนี้ได้
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,300-1,315
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร ICHI และMFEC