6 หุ้น “แบงก์-รับเหมาฯ” ตีปีก! ร่วมวงชิงเค้ก “เมกะโปรเจกต์” 3.1 แสนล้าน
6 หุ้น “แบงก์-รับเหมาฯ” ตีปีก! รับ “รฟท.” เซ็นสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 “ขอนแก่น-หนองคาย” วงเงิน 2.86 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยประมูลงานรถไฟรางคู่อีก 6 เส้นทางที่เหลือ วงเงิน 2.85 แสนล้านบาท คาดชงครม.ม.ค.68 เปิดประมูลราวเดือนพ.ค.-มิ.ย.68 ด้าน “บล.กรุงศรี” ชี้เป็นบวกหุ้นอิงการลงทุนกลุ่มแบงก์-รับเหมา เน้น KBANK, KTB, SCB CK, STECON, PYLON
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลหลักทรัพย์ “กลุ่มธนาคาร-กลุ่มรับเหมา” คาดจะได้ประโยชน์จากโครงการ “เมกะโปรเจกต์” ในปี 2568 ภาครัฐ ซึ่งล่าสุดได้ลงนามทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.86 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเปิดประมูลเพิ่มเติมและมีเม็ดเงินลงทุนราว 3.13 แสนล้านบาท เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุนในช่วงนี้ โดยอาศัยข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งระบุไว้ว่า
จากกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เซ็นสัญญารถไฟทางคู่ระยะ 2 ขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.86 หมื่นล้านบาท และความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง (การพัฒนาระบบรถไฟรางคู่) ระยะที่ 2 อีก 6 เส้นทางที่เหลือ ระยะทางรวม 1,321 กิโลเมตร มูลค่ารวม 2.85 แสนล้านบาท คาดว่าจะเสนอครม.ได้ในเดือน ม.ค. 2568 เปิดประมูลราวเดือนพ.ค.-มิ.ย. 2568
โดย 2 โครงการแรกที่จะเปิดประมูลได้คือ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 6.28 หมื่นล้านบาท และ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 3.75 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นจะทยอยประมูลเส้นทางสายใต้อีก 3 โครงการคือ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 2.42 หมื่นล้านบาท ,ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา วงเงิน 5.73 หมื่นล้านบาท และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 0.66 หมื่นล้านบาท และเส้นทางที่จะประมูลหลังสุดคือ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ วงเงิน 5.68 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้จากแนวโน้มการลงทุนที่เริ่มกลับมามีสัญญาณคืบหน้า และประเมินทิศทางเป็นบวกต่อการฟื้นตัว GDP นับจากปี 2568 ที่มีความยั่งยืน+ต่อเนื่องขึ้น จิตวิทยาบวกต่อหุ้นอิงการลงทุน ธนาคาร เน้น KBANK, KTB, SCB กลุ่มรับเหมา CK, STECON, PYLON (รอตั้งรับหลังตอบรับประเด็นลบค่าแรง)
อนึ่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย กับ กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนจิเนียริ่ง (1964) จำกัด บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า จำกัด ระยะทาง 167 กม. วงเงินสัญญา 28,679 ล้านบาท และร่วมลงนามในข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่ายระหว่าง รฟท. กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง และผู้สังเกตการณ์ องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย)
สำหรับขั้นตอนหลังจากลงนามสัญญาแล้ว รฟท.ยังต้องรอเรื่องเงินกู้จากกระทรวงการคลังซึ่งคาดว่าจะสามารถเบิกเงินล่วงหน้าก่อนทำงาน (Advance) งวดแรกตามสัญญาสัดส่วน 10% ได้ประมาณเดือนก.พ.-มี.ค.2568 และคาดว่าจะออกหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ได้ในเดือนเม.ย.2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2571
ส่วนโครงการนี้จะเป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม และก่อสร้างปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นของรฟท.ประมาณ 90% โดยจะมีการเวนคืนบ้างประมาณ 10% ในส่วนที่เป็นทางผ่าน ที่จะก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับ (Overpass ) และพื้นที่สำหรับเพิ่มรัศมีโค้งให้กว้างขึ้น ตามหลักการความปลอดภัย โดยมีพื้นที่เวนคืน 184 ไร่ ค่าเวนคืน 369 ล้านบาท โดยงบผูกพัน 2 ปี คือ ปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 215 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 153 ล้านบาท
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ประกอบด้วย อาคารสถานี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งทางรางระหว่างภูมิภาค รองรับการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทย-ลาว-จีน
ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง (การพัฒนาระบบรถไฟรางคู่) ระยะที่ 2 อีก 6 เส้นทางที่เหลือ ระยะทางรวม 1,321 กม. มูลค่ารวม 285,446.97 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ในเดือน ม.ค.68 เปิดประมูลราวเดือนพ.ค.-มิ.ย.68 โดย 2 โครงการแรกที่จะเปิดประมูลได้คือ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 280.5 กม. วงเงิน 62,859.74 ล้านบาท และ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท
หลังจากนั้น จะทยอยประมูลเส้นทางสายใต้อีก 3 โครงการคือ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,29.36 ล้านบาท ,ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท และเส้นทางที่จะประมูลหลังสุดคือ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 56,837.78 ล้านบาท
“การรถไฟฯ เร่งก่อสร้างเส้นทางรถไฟ ทั้งโครงข่ายรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ทางคู่ระยะเร่งด่วน ทางคู่สายใหม่ ตลอดจนโครงการรถไฟความเร็วสูงให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อยกระดับประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรางในภูมิภาคอาเซียนต่อไป”
ด้านนายปิยะ สุนทราณู ผู้จัดการโครงการฯ กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง กล่าวว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ มีความพร้อมในเข้าพื้นที่ก่อสร้างที่ รฟท.ส่งมอบพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัด ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย ซึ่งได้มีการหารือกับทีมงาน และ รฟท.เพื่อเตรียมแผนงาน
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการก่อสร้างทางรถไฟอีกเส้นควบคู่ไปกับทางรถไฟปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ต้องมีการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้ผลกระทบต่อการเดินรถ ดะงนั้นการก่อสร้างจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก นอกจากนี้พื้นที่อีก 10% ที่ยังรอการเวนคืน ทางกลุ่มฯอยากให้รฟท.เร่งดำเนินการเพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ก่อสร้างได้เร็วที่สุด
เส้นทางรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย ทางรฟท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ดังนั้นต้องมีการประสานแบบกก่อสร้างเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้กระทบต่อการก่อสร้างโครงการ ซึ่งระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน