“เกศิณี” โอนหุ้น IVF 3.68 ล้านหุ้นให้แม่ ฟาก “ชนะชัย” แบ่งพี่-น้อง 17 ล้านหุ้น

ไม่มีอะไรในกอไผ่! “เกศิณี กุลดิลก” โอนหุ้น IVF จำนวน 3.68 ล้านหุ้น ให้ “อุทัยรัตน์ กุลดิลก (มารดา)” ฟาก “ชนะชัย จุลจิราภรณ์” โอนหุ้นรวม 17 ล้านหุ้น ให้ทาง “ครรชิต จุลจิราภรณ์ (พี่ชาย)” จำนวน 14 ล้านหุ้น และ “ฐิติวัชร์ จุลจิราภรณ์กุล (น้องชาย)” จำนวน 3 ล้านหุ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 พบการทำรายการใน บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF ที่ปรากฏรายซื้อ น.ส.เกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทำรายการโอนหุ้น จำนวน 3,680,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.84% ส่งผลให้หลังจากทำรายการคงเหลือถือหุ้น จำนวน 28,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.36% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมด จากเดิมถืออยู่ 31,680,000 หุ้น สัดส่วน 7.20%

อย่างไรก็ตามการโอนหุ้นของน.ส.เกศิณี ออกมา จำนวน 3,680,000 หุ้น โดยเป็นการทำรายการนอกตลาดหลักทรัพย์ (โอนหุ้นจากบัญชี 600 ที่ TSD) นั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่เลย เพราะเป็นการโอนให้ นางอุทัยรัตน์ กุลดิลก (มารดา) เข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัทเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังพบการทำรายการของ นายชนะชัย จุลจิราภรณ์  กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ IVF ได้โอนหุ้นออกมา 2 รายการ รวมจำนวน 17,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.86% ส่งผลให้หลังจากทำรายการคงเหลือถือหุ้น  157,330,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 35.76% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมด จากเดินถืออยู่ 174,330,600 หุ้น สัดส่วน 39.62%

ทั้งนี้ การโอนหุ้นของ นายชนะชัย เป็นการทำรายการนอกตลาดหลักทรัพย์ (โอนหุ้นจากบัญชี 600 ที่ TSD) โดยโอนให้นายครรชิต จุลจิราภรณ์ (พี่ชาย) จำนวน 14,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.18% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมด และโอนให้กับนายฐิติวัชร์ จุลจิราภรณ์กุล (น้องชาย) จำนวน 3,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.68% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมที่ถืออยู่แล้วจำนวน 18,275,600 หุ้น สัดส่วน 4.15% ดังนั้น หลังจากรับโอนหุ้นทำให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 21,275,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.84% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมด

สำหรับบริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่มุ่งเน้นการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล มีจุดแข็งที่โดดเด่น ทั้งอัตราความสำเร็จในการทำ IVF ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก

ส่วนเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้ขยายสาขาเพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และเสริมศักยภาพธุรกิจ Wellness สำหรับตอบรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง และเสริมโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้กับผู้ใช้บริการเพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคง รวมถึงผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับนักลงทุน ด้วยปัจจัยบวกทั้งหมดนี้ จึงถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ภายใต้การนำทัพของผู้บริหารที่มั่นใจในอนาคตที่สดใสของ IVF

Back to top button