หมดพลังเล่นหุ้น

สิ่งที่ “โมนิก้า” ไม่อยากเอ่ยถึงมากสุด แต่ต้องเอ่ยถึงอีกครั้งก็คือ สภาพของตลาดหุ้นไทยที่อ่อนปวกเปียกเป็นเวลานาน


สิ่งที่ “โมนิก้า” ไม่อยากเอ่ยถึงมากสุด แต่ต้องเอ่ยถึงอีกครั้งก็คือ สภาพของตลาดหุ้นไทยที่อ่อนปวกเปียกเป็นเวลานาน และวอลุ่มเทรดที่ลดลงต่อเนื่อง มันกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้การขึ้นของดัชนีต่อจากนี้ยากขึ้นเป็นกอง เพราะความมั่นใจของนักลงทุนหดหายลงไปเรื่อย ๆ แถมมนต์ขลังของกองทุนวายุภักษ์ก็มีลักษณะเสื่อมถอยไปมาก อีฉันเลยไม่รู้จะเอาสตอรี่อะไรมาเล่าให้ฟังจ้า!

เนื่องจากสิ่งที่สังคมกำลังก่นด่าอย่างหนักในเวลานี้ มันเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และเป็นเรื่องที่อีฉันเบื่อที่จะพูดถึงทุกวัน เพราะวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง “เศรษฐกิจ” และ “สังคม” มีอาการหูตาบอดกันเป็นแถว “โมนิก้า” จึงไม่ถือโทษที่ดัชนีออกทะเลไปเรื่อย ๆ เพราะเป็นใครก็ต้องขายหุ้นออกมาก่อนทั้งนั้น หลังองค์ประกอบหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น มันไม่มีอะไรดีสักอย่างนะพ่อคุณ

วันนี้เลยต้องเดาทางกันว่า การที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,431.67 จุด ลบไป 8.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.03 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการอ่อนตัวหลุดเส้นแนวรับสำคัญ 10-25-75 วันอีกครั้ง โดยที่เส้นแนวรับ 200 วันอยู่ที่ระดับ 1,382 จุด มันเป็นเรื่องที่ต้องกังวลไหม? ขณะเดียวกันก็อย่าลืมว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมามีอิทธิพลเหนือตลาดหุ้นไทยเต็มตัวอีกครั้งแบบนี้..เอาอะไรไปสู้กับเขาล่ะคะ

สถานการณ์ข้างต้นถูกย้ำหัวหมุดด้วยแรงขายที่สาดใส่หุ้น BH ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 193 บาท ลบไป 5.50 บาท หรือลงไป 2.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.90 พันล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ลงมาเยอะพอสมควร แต่เที่ยวนี้ก็ยังลงลึกกว่าเดิมอีกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่หุ้นใหญ่โดนถล่มหนัก มักหมายถึงเงินทุนกำลังไหลออกน่ะซี

ส่วนรายที่พอมีลุ้นขึ้นมาหน่อย และน่าจะฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง “โมนิก้า” คงฝากความหวังไว้ที่หุ้น SCGP เพราะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ลงมาแรง และลงมาค่อนข้างนาน ประจวบกับในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก จนราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้นระหว่างวัน แม้ย่อกลับมายืนปิดที่ระดับ 20.70 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาทแบบนี้ มันเหมือนจะมีหวังขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อดูวอลุ่มที่เบาบาง..อีฉันเลยไม่แน่ใจเจ้าค่ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น STA ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในช่วงต้นเดือนสามารถขยับตัวขึ้นมาได้เรื่อย ๆ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาดันโดนรินขายออกมาอีกครั้ง จนวันศุกร์โดนสาดโครมเดียวลงมาปิดที่ 17.90 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 4.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 234 ล้านบาท มันเป็นภาพที่ทำให้อีฉันงงอย่างแรง และมีความกังวลว่าจะหลุดโลว์เดิมที่ระดับ 17.20 บาทนะออเจ้า

สำหรับรายที่เฉาลงไปเฉย ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู ERW เป็นรายถัดมา เพราะตอนนี้กลายเป็นหุ้นที่พวกกองทุนไม่เหลียวแล จนราคาหุ้นซึมลงต่อเนื่องแบบนี้ มันกลายเป็นเกมที่ต้องลุ้นกันแบบวันต่อวัน และต้องดูจุดเด้งที่บริเวณ 3.82 บาทยังทำงานได้ดีเหมือนรอบก่อนไหม? หลังราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 3.92 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54 ล้านบาทแล้วจ้า!

เมาท์ถึงหุ้นที่หายไปจากสารบบ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปมองหุ้น GUNKUL อย่างรวดเร็ว เพราะเคยเป็นหุ้นฮอตฮิตในช่วงปี 64 แต่หลังจากนั้นก็ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เป็นช่วง จนปีนี้ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงหุ้นตัวนี้อีกเลย ขณะที่ราคาหุ้นก็เอาแต่ไหลลงลูกเดียว เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินสถานการณ์ของหุ้นที่ลงมายืน 2.18 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 13 เท่า ยังน่าสนใจอยู่ไหมตัวเอง

ส่วนรายที่ทำท่าเหมือนจะกลับมาได้ แต่สุดท้ายก็ต้านแรงขายที่มีอยู่เยอะไม่ไหว จนราคาหุ้นใกล้จะลงมาทำดับเบิ้ลโลว์ที่บริเวณ 4.85 บาท คงต้องมองไปที่หุ้น LH แบบไม่ลังเลใจ เพราะราคาหุ้นแกว่งตัวลงเรื่อย ๆ ทุกวัน อีฉันเลยหวังในใจว่า ราคาหุ้นจะตีกลับขึ้นมาอีกรอบ หลังราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 5.10 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 249 ล้านบาท..อีฉันหวังมากไปหรือเปล่าเนี่ย!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button