SPCG คาดสรุปร่วมทุนโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น กว่า 100MW ภายใน Q3/59
SPCG อยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่น 2-3 โครงการ กำลังการผลิตกว่า 100MW คาดสรุปได้ภายใน Q2-Q3/59 ขณะที่อยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในพม่า-ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตรวมไม่ต่ำกว่า 100MW คงแผน 5 ปี (ปี 58-62) มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 500MW ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็นไม่ต่ำกว่า 30% ภายในปี 60 จากปัจจุบันมีรายได้มาจากในประเทศ 100%
น.ส.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 2-3 โครงการ กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2-3 ปี 59 นี้ โดยจะถือหุ้นสัดส่วน 1 ใน 3
“ล่าสุดเราได้ลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ และเราก็จะมีการร่วมลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพราะทางประเทศญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะมีกำลังการผลิตจากพลังงานสะอาดทั้งหมด 54,000 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันทำไปได้เพียง 10,000 เมกะวัตต์ ทำให้เรายังมีโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตอีกมาก”น.ส.วันดี กล่าว
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในเมียนมาร์ และ ฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตรวมไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปการเข้าร่วมลงทุนได้ในช่วงไตรมาส 2-3 ปี 59
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 30% ภายในปี 60 จากปัจจุบันมีรายได้มาจากในประเทศ 100% โดยบริษัทฯมีแผนที่จะขยายไปยัง ภูมิภาคอาเซียน และญี่ปุ่น
สำหรับการขยายกำลังการผลิตในประเทศ ปัจจุบันบริษัทรอความชัดเจนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งมีความล่าช้า แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงบริษัทก็อาจจะไปร่วมกับพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูความชัดเจนจากภาครัฐอีกที
ขณะที่บริษัทคงแผน 5 ปี (ปี 58-62) จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ 261 เมกะวัตต์ โดยวางงบลงทุนไน 5 ปีดังกล่าวไว้ที่ระดับ 3-4 พันล้านบาท โดยจะเน้นขยายไปยังต่างประเทศ