M กังขาธรรมาภิบาล.?
เริ่มถูกตั้งคำถามหนาหูถึงการเติบโตของผลประกอบการหุ้นสุกี้หม้อต้ม บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป หรือ M ว่าในอนาคตจะยังสดใสซาบซ่าหรือเปล่า..??
เริ่มถูกตั้งคำถามหนาหูถึงการเติบโตของผลประกอบการหุ้นสุกี้หม้อต้ม บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ว่าในอนาคตจะยังสดใสซาบซ่าหรือเปล่า..??
เพราะดูจากการขยายสาขาระยะ 2-3 ปีมานี้ มีไม่เยอะ เฉลี่ยปีหนึ่งเปิดเพิ่มไม่กี่สาขา…ไม่เปิดเพิ่มไม่พอ ยังมีการปิดสาขาที่ผลประกอบการไม่ดีอีกต่างหาก…โดยไตรมาส 3/2567 ปิดสาขาไปแล้ว 8 สาขา ประกอบด้วย MK 5 สาขา Yayoi 4 สาขา และแบรนด์อื่นอีก 1 สาขา ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 มีสาขารวมทั้งสิ้น 694 สาขา ลดลงจาก 698 สาขา ในไตรมาส 3/2566 และลดลงจาก 702 สาขา ในไตรมาส 2/2567 ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าในไตรมาส 4/2567 จะปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา..รู้ยัง..!?
หันไปดูภาพรวมตลาดสุกี้หม้อต้มก็หดตัว เป็นผลพวงมาจากกำลังซื้อที่ลดลง ในขณะที่สมรภูมินี้ยังเดือดพล่านไม่ต่างจากน้ำซุปในหม้อต้ม มีคู่แข่งมากหน้าหลายตามากลืนกินส่วนแบ่งตลาดไป ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารนอกบ้านของคนยุคนี้เปลี่ยนไป มีทางเลือกและความหลากหลายมากขึ้น
ครั้นจะหวังพึ่ง “ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด” ที่ M ใช้งบก้อนโตซื้อเข้ามาอยู่ในพอร์ต ก็ดันทุนจมซะงั้น ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นพัฒนาการในการสร้างแวลูให้เป็นที่ประจักษ์ เลยทำให้สถานการณ์ของ M ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด ลากยาวมาจนวิกฤตโควิดคลี่คลายไปแล้ว ก็ยังไม่ค่อยสู้ดี…
เห็นได้จากผลประกอบการในบางไตรมาสที่กำไรลดลง อย่างไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 341 ล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 15% จากไตรมาสก่อน ถือเป็นกำไรที่ต่ำสุดในรอบ 6 ไตรมาสเลยทีเดียว..!! ส่วนในแง่ยอดขายก็ลดลงเหลือ 4,094 ล้านบาท ลดลง 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 10% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่ ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,088 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,173 ล้านบาท และมียอดขายอยู่ที่ 11,735 ล้านบาท ลดลง 7.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 12,619 ล้านบาท
จากปัจจัยที่ไล่เรียงมา ทำให้ M ต้องหาแผนรับมือ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง..??
แต่ที่ประจักษ์ชัดแล้ว คงเป็นการประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) จำนวน 2 คน ได้แก่ “ทานตะวัน ธีระโกเมน” และ “ธีร์ ธีระโกเมน” โดยบริษัทอ้างตามข้อเสนอของคณะกรรมการบรรษัทภิบาล การพัฒนาอย่างยั่งยืน สรรหา และพิจารณาค่าตอบแทน และให้ขึ้นตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) นั่นคือ “ฤทธิ์ ธีระโกเมน”…
ที่น่าสนใจ ทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน โดย “ทานตะวัน” เป็นลูกสาวคนโต ส่วน “ธีร์” เป็นลูกชายของ “ฤทธิ์” ผู้ก่อตั้งร้านเอ็มเคนั่นแหละ เท่ากับว่าเป็นคนกันเอง เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน จะเกิดความย้อนแย้งกับธรรมาภิบาลป๊ะเนี่ย..??
เพราะการตั้งคนในครอบครัวเดียวกันมานั่ง MD ร่วมอย่างนี้ ไม่แคล้วถูกตั้งข้อสังเกตว่า มันธรรมาภิบาลตรงไหน.?? ก็ไม่ต่างจากเดิม ซึ่ง M ถูกครอบโดย “ธีระโกเมน” อยู่แล้ว
โอเค…ถ้าตั้งขึ้นมาเพื่อผ่องถ่ายการบริหารจัดการ…อันนี้เข้าใจได้ เพราะอาจถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน…เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป
แต่ถ้ามองในมุมธรรมาภิบาล ก็เอ๊ะ..?? อยู่นะ…
แหม๊…ก็ช่วงนี้มันมีประเด็นร้อนว่าด้วยเรื่องธรรมภิบาลของบริษัทจดทะเบียน ทั้งจากกรณีการนำเงินในตลาดหุ้นไปอุ้มบริษัทในครอบครัว รวมทั้งผู้บริหารอินไซด์เดอร์ เทรดดิ้งเสียด้วยสิ…ทำให้อดคิดไม่ได้
ไม่เอา…ไม่พูดดดด..!!
เกรงว่า M จะถูกเหมารวมไปด้วยน่ะสิ…เป็นห่วงนะเนี่ย..!!
…อิ อิ อิ…