“ฐกฤต” มอง SET ผันผวน แนะลงทุน 4 ธีมโดดเด่น เป้ากองทุน ThaiESG
“ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์” มองทิศทาง SET แกว่งตัวผันผวน แนะลงทุน 4 ธีมเด่น “แบงก์-ICT-ขนส่ง และค้าปลีก” เป้าเม็ดเงินกองทุน ThaiESG ไหลเข้าช่วงท้ายปี ราว 5 พันล้านบาท
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (19 ธ.ค.67) ว่า มองทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในช่วงปลาย “ความผันผวน” เนื่องจากเมื่อมาดูปัจจัยใหญ่กนง.วานนี้ผลประชุมที่ออกมามีการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% แต่ในต้นปีหน้ามีแนวโน้มที่จะมีโอกาสเปิดอัพไซด์ในการปรับลดดอกเบี้ยต้นปีนี้ตรงนี้จะ upside บวกต่อตลาดหุ้นไทย
ขณะเดียวกันเมื่อมาดูทิศทางตลาตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้และเอเชียในเช้านี้ปรับตัวลงรับข่าว “เฟด” ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ช่วง 4.25%-4.5% คือแม้ว่าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ทิศทางในปีหน้าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือแค่เพียง 2 ครั้ง แถมเปิดทางมองว่านโยบาย “ทรัมป์ 2.0” จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ตรงนี้มองว่าตลาดตอบรับความเสี่ยงปัจจัยต่างๆไประดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงบอกว่าภาพรวมน่าจะอยู่ในช่วงของปลายความผันผวน
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีปลายปี และมองว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้จะอ่อนตัวถามตลาดภูมิภาคและมองว่าแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,360 จุด โดยกลุ่มหุ้นเป้าหมายอิงปัจจัยจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) มองว่า 2 สัปดาห์สุดท้ายปีนี้จะมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ประมาณ 5,000 ล้านบาท
ดังนั้นกลุ่มลงทุนเป้าหมายหลักกองทุน ThaiESG คือ 1.กลุ่มธนาคารได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL,บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, 2.กลุ่ม ICT ลงในกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVNC,
3.กลุ่มขนส่งแนะนำบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และ 4.กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO โดยมองว่าราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมามีการปรับฐานลงมา และมองกำไรปีหน้าเด่น และ PE ต่ำสุดในกลุ่ม
ขณะเดียวกลุ่มหุ้นที่ต้องระวังในช่วงระยะสั้นกลุ่มไฟแนนซ์ และโรงไฟฟ้า เนื่องจากบอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า