“กองทุน-ประกัน-ต่างชาติ” ประสานเสียงซื้อ “ตราสารหนี้ไทย” 2.2 หมื่นล้านบาท

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 75,593 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 7,599 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 2,225 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 12,365 ล้านบาท  ส่วน Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.08% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.02%

ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดในวันนี้  Yield Curve ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าประมาณ 0.01-0.04% สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET INFLOW จำนวน 12,363 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET BUY จำนวน 12,363 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยต่างประเทศ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด

โดยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปี 2568 จากเดิมที่ส่งสัญญาณในเดือนก.ย.ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวม 1.00% ในปี 2568 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2570 ขณะที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ด้านปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 จะขยายตัวได้ 2.9%

ลดลงจากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนต.ค.ที่ 3% เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจในปีหน้ามีมากขึ้นจากความไม่แน่นอนสูงขึ้น ทำให้เห็นโอกาสที่เศรษฐกิจไทยอาจจะโตไม่ถึงตัวเลขที่เคยประมาณการไว้ และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเติบโต ทั้งนี้ตลาดติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สหรัฐฯไตรมาส 3/2567 ในคืนนี้