สังคมข่าวหุ้น
ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่คาดหวังกันว่าจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,500 จุด คงต้องเลิกหวังกันได้แล้วละ ตอนนี้ต้องมาลุ้นกันว่า จะกลับขึ้นมายืนอยู่ 1,400 จุดได้หรือเปล่า
ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่คาดหวังกันว่าจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,500 จุด ตอนนี้คงเลิกหวังกันได้แล้วละ เพราะหลังจากที่ดัชนีร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด ตอนนี้ต้องมาลุ้นกันว่า จะกลับขึ้นมายืนอยู่ 1,400 จุดได้หรือเปล่า ขณะที่นักลงทุนหวังว่าจะหลุดระดับ 1,300 จุด ส่วนในด้านทางเทคนิคนั้น แนวรับจะอยู่ที่ประมาณ 1,350 จุด
หากย้อนกลับไปก่อนที่ดัชนีจะขึ้นในรอบล่าสุดนี้ ดัชนีขึ้นมาจากประมาณ 1,270 จุด จากแรงของนักลงทุนต่างประเทศ โดยมีหุ้น 2 กลุ่ม(หุ้น) กับอีก 1 หุ้นเป็นตัวดันดัชนีขึ้นมา นั่นคือหุ้นในกลุ่มซีพี เช่น CPALL CPAXT CPF TRUE และกลุ่มกัลฟ์ฯ คือ GULF ADVANC INTUCH THCOM และอีกหนึ่งหุ้นคือเดลต้าฯ DELTA ทั้งหมดนี้มีส่วนในการดันดัชนีขึ้นมามากกว่า 120 ถึง 150 จุด
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลลงอย่างหนักเช่นเดียวกัน นำโดย บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และหุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ BH ล่าสุดหุ้น BH ในด้านสัญญาณทางเทคนิค ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาแล้ว มีแนวต้านสำคัญอยู่ที่บริเวณ 200 บาท ส่วน BDMS สัญญาณทางเทคนิค ยังไม่สวยมากนัก มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลงไปต่ออีกได้ ส่วนหุ้นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ขนาดกลาง เช่น BCH CHG ราคายังไม่ฟื้นตัว จากแนวโน้มผลประกอบการช่วงไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อาจจะปรับลดลงเล็กน้อย แต่จะว่าไปแล้ว ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ผลประกอบการของหุ้นโรงพยาบาลขนาดกลาง ไม่ใช่เป็นช่วงไฮซีซั่น กำไรจึงออกมาไม่ได้ดีมากนัก
มีคำถามจากนักลงทุนว่า ตอนนี้หุ้นกลุ่มไหนน่าซื้อ คำตอบคือ กลุ่มธนาคาร เช่น BBL KBANK SCB KTB เพราะต่างได้รับประโยชน์จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน คงเหลืออัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% และปีหน้า อาจจะปรับลงเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์กันไว้ ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกลุ่มแบงก์ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
วานนี้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 104 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีนัยฯ เชิงบวกอะไร ส่วนนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนต่าง ๆ ยังขายสุทธิออกมากว่า 1.2 พันล้านบาท น่าจะเป็นการขายเพื่อปรับลดความเสี่ยงจากหุ้น CPALL และ CPAXT ออกไปก่อนจนกว่าจะมีการหารือร่วมกันของสมาชิกสมามคม บลจ. และฟังการชี้แจงของผู้บริหาร CPAXT แถมล่าสุด ทริสเรตติ้งฯ ออกมาบอกว่า ดีลของ CPAXT อาจจะส่งผลต่อการจัดอันดับเครดิตในรอบถัดไป นี่คงเป็นสาเหตุให้กองทุนเร่งขายออกมาอีก
วานนี้ (19 ธ.ค.) Beyond Private Banking และ Panerai เชิญลูกค้ามาเปิดประสบการณ์สัมผัสทั้ง 5 ผ่านสุนทรียภาพคอนยัคทั้ง 9 ตัว จาก Martell ผู้ผลิตคอนยัค (Cognac) ระดับโลก สำหรับงานนี้ ถือเป็นงานแรกที่เชิญลูกค้ามาเปิดประสบการณ์พร้อมกับชมบรรยากาศ พระอาทิตย์เปลี่ยนสีในยามที่กำลังลาลับขอบฟ้า, โค้งน้ำเจ้าพระยา, เส้นขอบฟ้า และอ่าวไทย ณ Beyond The River ส่วนงานต่อไป คืองานสัมมนากลยุทธ์การลงทุน ประจำปี 2568 “The Year of Snake” ณ Beyond The Sky วันที่ 16 ม.ค. 2568
วันนี้หุ้น NKT หรือโรงพยาบาลนครธน เริ่มเข้าเทรดวันแรก มีทุนชำระแล้ว 535 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 135 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 67.50 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย 20.25 ล้านหุ้น และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 13.50 ล้านหุ้น และผู้ลงทุนสถาบัน 33.75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.80 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,053 ล้านบาท ในด้านพื้นฐานถือว่าดี แต่ต้องมาลุ้นภาวะตลาดจะเป็นใจไหม
คาเฟอีน