5 องค์กรตลาดทุนเตือน! บริษัทจดทะเบียนต้อง “โปร่งใส-ยึดหลักธรรมาภิบาล”
5 องค์กรตลาดทุนเตือน! บริษัทจดทะเบียนต้อง โปร่งใสและหยึดหลักยธรรมาภิบาลเป็นหลัก ย้ำองค์กรเฝ้าติดตามข่าวใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (20 ธ.ค.67) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทจดทะเบียนไทยให้ยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Corporate Governance) ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมแนะนำ 3 แนวทางสำคัญ เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานธรรมาภิบาลให้โปร่งใสและยั่งยืน “ธรรมาภิบาล” หัวใจของความโปร่งใสและการเติบโตยั่งยืน
โดย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (Thai Listed Companies Association) กล่าวย้ำว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและนำไปสู่การเติบโตที่มั่นคง
“ตลาดทุนไทยต้องการความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งธรรมาภิบาลคือรากฐานสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก” นายกอบศักดิ์ระบุ
“Public Trust” รากฐานความยั่งยืนขององค์กร
นายกุลเวช เจนวัฒนวิทย์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) ชี้ว่า การสร้างความยั่งยืนขององค์กรเริ่มต้นจากความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน (Public Trust) โดยคณะกรรมการบริษัทควรทำหน้าที่ร่วมกับผู้บริหารในการปลูกฝังธรรมาภิบาลให้ลึกซึ้งถึงพนักงานทุกระดับ
“หน้าที่ของคณะกรรมการไม่ได้มีเพียงการกำหนดนโยบาย แต่ต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประธานคณะกรรมการควรเปิดโอกาสให้กรรมการทุกคนแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพื่อสะท้อนความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียและรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่าย” นายกุลเวชกล่าว
“ESG” ความสำคัญในมุมมองนักวิเคราะห์การลงทุน ซึ่ง นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analysts Association – IAA) กล่าวว่า ในปัจจุบัน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว
“นักลงทุนมองหาโอกาสที่ผสานผลตอบแทนทางการเงินและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม บริษัทที่เน้นผลกำไรระยะสั้นโดยละเลย ESG อาจเผชิญกับความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและการต่อต้านจากสังคม ซึ่งส่งผลเสียต่อผลการดำเนินงานในอนาคต” นายไพบูลย์กล่าว
ผู้จัดการกองทุนย้ำความสำคัญของ ESG Collective Action โดย นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies – AIMC) และประธานคณะอนุกรรมการ ESG Collective Action กล่าวถึง ความกังวลด้าน ESG ในหมู่ผู้บริหารและผู้จัดการกองทุน โดยเฉพาะด้านธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน
“ในฐานะผู้ลงทุนสถาบัน เรามุ่งเน้นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนและยกระดับ ESG Collective Action ให้เป็นกลไกสำคัญในการติดตาม ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหา ESG ที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดทุน” นางชวินดากล่าว
“การสื่อสารโปร่งใส” : เครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นผู้ลงทุน
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เน้นย้ำว่าการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและทั่วถึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน
“บริษัทจดทะเบียนต้องสื่อสารข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ลงทุนอย่างรวดเร็วและเท่าเทียม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมให้การเปิดเผยข้อมูลเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมและทันเหตุการณ์” นายอัสสเดชกล่าว
3 แนวทางสำคัญในการเสริมสร้างธรรมาภิบาล จากความกังวลในสถานการณ์ปัจจุบัน FETCO และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนด 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่
1.ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสม
2.ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการ โดยเฉพาะกรณีที่อาจเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
3.ส่งเสริมธรรมาภิบาลเชิงรุก เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่กระทบต่อความเชื่อมั่น
ทั้งนี้ ธรรมาภิบาล คือ พันธกิจของตลาดทุนไทย ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี บริษัทจดทะเบียนไทยสามารถเสริมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทย พร้อมทั้งพัฒนาให้ตลาดทุนก้าวขึ้นสู่เวทีสากลอย่างมีคุณภาพ